นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2567 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี จากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น จากภาคธุรกิจขนส่งและธุรกิจการท่องเที่ยวตามเกาะ ซึ่งจะสนับสนุนแผนธุรกิจปีนี้ให้เติบโตได้อย่างดี โดยบริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโตไว้ราว 50% จากการฟื้นตัวของดีมานด์งานซ่อมเรือมีสถานการณ์ดีขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่งานต่อเรือบริษัทฯ รอลุ้นประมูลงานโครงการใหญ่ของทั้งภาครัฐ และเอกชนอีกหลายโครงการในปี 2567
ผลประกอบการในปี 2566 มีกำไรสุทธิ 17.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท หรือ 84% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้รวม 573.60 ล้านบาท ลดลง 25% จากปีก่อน มาจากงานซ่อมเรือ 493.71 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 6.69 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีลูกค้าเรือเอกชนเป็นส่วนใหญ่ซึ่งมีมูลค่าการซ่อมทำไม่สูงเท่ากับเรือราชการ อีกทั้งช่วงระหว่างไตรมาสที่ 2 มีเรือยกเลิกเข้าซ่อมทำ แต่บริษัทฯสามารถหาลูกค้าเข้ามาทดแทนได้ตามแผนในช่วงปลายปี ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2566 งานซ่อมเรือก็ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ขณะที่มีรายได้ต่อเรือ 20.76 ล้านบาท ลดลง 202.54 ล้านบาท โดยในปี 2566 บริษัทฯรับรู้รายได้จากเรือลากจูงขนาดกลางจำนวน 16.63 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือจากปี 2565 และส่งมอบให้กองทัพเรือไตรมาส 2/2566 รวมทั้งปี 2566 บริษัทฯ ได้ทำสัญญาต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ มูลค่าทั้งโครงการ 885 ล้านบาท และรับรู้รายได้จำนวน 4.13 ล้านบาท โดยเป็นการรับรู้รายได้ร้อยละ 0.50 ของทั้งโครงการ โดยมีกำหนดส่งมอบในไตรมาส 4/2568
ส่วนรายได้จากการจัดหาเรือ 8.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.93 ล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อเรือกำจัดผักตบชวา ให้กับบริษัท อีโคมารีน จำกัด เพื่อส่งมอบให้กับกรมชลประทาน จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 1 ลำ และได้ส่งมอบเรือแล้วในเดือน พ.ย.2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น 10.31% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถึงแม้รายได้จากการรับจ้างลดลง รวมถึงต้นทุนค่าวัตถุดิบและต้นทุนค่าแรงมีการปรับเพิ่มขึ้นแต่ทางบริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ตามงบประมาณที่ตั้งไว้ รวมทั้งสามารถควบคุมมาตรฐานการซ่อมเรือและต่อเรือได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้งสามารถส่งมอบเรือให้กับลูกค้าได้ตามระยะเวลา ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน