TERA เคาะราคา IPO หุ้นละ 1.75 บาท เปิดจองซื้อ 3 -11 เม.ย.เทรด mai วันแรก 24 เม.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 18, 2024 14:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

TERA เคาะราคา IPO หุ้นละ 1.75 บาท เปิดจองซื้อ 3 -11 เม.ย.เทรด mai วันแรก 24 เม.ย.

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เทอร์ราไบท์ พลัส (TERA) กล่าวว่า การเสนอขาย หุ้น IPO จำนวน 90 ล้านหุ้น กำหนดราคา IPO ที่หุ้นละ 1.75 บาท และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) ในวันที่ 24 เมษายน 2567 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "TERA"

โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.บียอนด์ และ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) พร้อมผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 แห่ง ได้แก่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.กรุงศรี พัฒนสิน และ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)

บริษัทกำหนดระยะเวลาจองซื้อ

(1) สำหรับผู้ถือหุ้นของ บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights): วันที่ 3-5 เมษายน 2567

และ (2) สำหรับบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัทหรือบริษัทย่อย บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทหรือบริษัทย่อย และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย: วันที่ 9-11 เมษายน 2567

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: PER) ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 14.50 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิส่วนของผู้เป็นเจ้าของของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 28.96 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 240 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share: EPS) ที่เป็นของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 0.12067 บาท

อย่างไรก็ตาม การคำนวณจากผลการดำเนินงานในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง ซึ่งอาจจะไม่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานหรือความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในปัจจุบันหรือในอนาคต และไม่ได้เป็นอัตราส่วนที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้โดยตรง เนื่องจากเป็นอัตราส่วนในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

สำหรับสัดส่วนหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 4,686,956 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.95 ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุน

1. ลงทุนในระบบ Cloud 60 ล้านบาท ไตรมาส 4/2567

2. ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท 70 ล้านบาท ปี 2568 - ปี 2569

3. เงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ 9.40 ล้านบาท ปี 2567-2568

นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ ผู้อำนวยการอาวุโสหัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)(CGSI) กล่าวว่า การกำหนดราคา IPO ถือเป็นระดับราคาเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูงจากการที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิต ไลฟ์สไตล์ และการประกอบธุรกิจมากขึ้น ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตที่มีความสอดคล้องกับสภาวะตลาดปัจจุบันรวมถึงยังมีจุดเด่นด้านผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง

โดยจำนวนหุ้น IPO 90 ล้านหุ้น เป็นหุ้น Pre-emptive Rights ประมาณ 40% หรือ 36 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการะคุณของผู้จัดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 41 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการะคุณของบริษัทไม่เกิน 4.5 ล้านหุ้น เสนอขายต่อกรรมการผู้บริหาร และพนักงานรวมถึงผู้ที่ความสัมพันธ์ไม่เกิน 8.5 ล้านหุ้น ขณะที่หุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมจะถูกติด Silent Period เป็นเวลา 6 เดือน

นอกจากนี้ หุ้น TERA ยังมีค่า P/E Ratio หรือราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ P/E Ratio ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าหุ้น TERA จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดย TERA เป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 19 ปี

ด้านนายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TERA กล่าวว่า บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร ให้บริการและลงทุนใน กิจการอื่นที่ให้บริการด้านซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันทางธุรกิจต่างๆ

ทั้งนี้ ภายหลังจากการระดมทุน บริษัทฯ มีแผนนำเงินไปลงทุนในระบบ Cloud เพื่อเพิ่มปริมาณการให้บริการ T.Cloud แก่ลูกค้าที่ต้องการใช้ Local Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งมั่นใจว่า TERA จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม

TERA ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอที และให้บริการเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร จัดจำหน่ายและให้บริการด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) จัดจำหน่ายและให้บริการซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการการขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Transportation Management System: TMS) และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และให้บริการ รวมถึงฝึกอบรมด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ที่จะช่วยให้ลูกค้าเพิ่มผลกำไรในการดำเนินธุรกิจ โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายล้วนเป็นแบรนด์ที่มาจากบริษัทไอทีชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และมีมาตรฐานระดับสากล

กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอทีและให้บริการเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจได้แก่

1. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (On-Premise Hardware & Cyber Security)

2. กลุ่มธุรกิจบริการระบบเก็บข้อมูลและประมวลผลระบบสารสนเทศบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และบริการในรูปแบบสมาชิกแบบต่อเนื่อง (Cloud & Recurring Services)

3. กลุ่มธุรกิจระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการ การขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Transportation Management System: TMS) ภายใต้ตราสินค้า "Skyfrog"

4. กลุ่มธุรกิจการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ