BPS เคาะราคา IPO หุ้นละ 90 สต.P/E 18 เท่า เปิดจอง 27-29 มี.ค.เทรด 3 เม.ย.ผู้บริหาร-ผถห.ล็อกหุ้นแน่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 26, 2024 10:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

BPS เคาะราคา IPO หุ้นละ 90 สต.P/E 18 เท่า เปิดจอง 27-29 มี.ค.เทรด 3 เม.ย.ผู้บริหาร-ผถห.ล็อกหุ้นแน่น

บมจ.บีพีเอส เทคโนโลยี (BPS) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.90 บาท มูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) หุ้นละ 0.62 บาท ระยะเวลาเสนอขาย 27-29 มี.ค.67 โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้วย และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.บียอนด์ และ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) บริษัทจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.

ที่มาของการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earning Ratio : P/E Ratio) ทั้งนี้ ราคาหุ้นละ 0.90 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E เท่ากับ 18.00 เท่า คำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.66 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 0.12 บาทต่อหุ้น เมื่อหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลัง IPO จำนวน 400 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.05 บาท/หุ้น

สัดส่วนของหุ้นผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 6,883,952 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.72% ของจำนวนหุ้นหลัง IPO อย่างไรก็ตาม บริษัทได้นำหุ้นของบริษัทส่วนที่เหลือ silent period ที่ 55% ที่ถือโดยนางสาวภัทรภร แก้วโพธิ์คา จำนวน 5,806,452 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.45% ทำข้อตกลงไม่ขายหุ้นเท่ากับหุ้นที่ติด Silent Period และส่วนที่ถือโดยกรรมการและผู้บริหาร 0.27% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ที่ถือโดย (1) นายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร (2) นายเกียรติ อัชรพงศ์ (3) นางสาวประไพภรณ์ ธนเวโรจน์สกุล (4) นางสาวลัดดาวัลย์ นิลวงศ์ (5) นายบุญช่วย ก่อกิจโรจน์ ทำข้อตกลงกับบริษัทโดยสมัครใจที่จะไม่ขายหุ้นเป็นระยะเวลา 1 เดือน

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ 1. โครงการขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop) 30 ล้านบาท เพื่อขยายการขายหรือการบริการติดตั้งระบบไฟฟ้า Solar Rooftop แบ่งเป็น ลูกค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และ ลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม

2. โครงการขยายธุรกิจนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ 26 ล้านบาท นำเสนอนวัตกรรม Green Home Solution เพื่อตอบสนองในเรื่องของ บ้านอยู่สบาย บ้าน Internet ความเร็วสูง บ้านประหยัดพลังงาน เป็น One Stop Service ในเรื่องอุปกรณ์ และงานติดตั้ง

3.โครงการไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร Fiber to the Home (FTTX) 20 ล้านบาท ลงทุนในอุปกรณ์และการติดตั้ง งานเดินโครงข่ายไฟเบอร์ออพติก สำหรับโครงการประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสูง

4. โครงการศูนย์การเรียนรู้สำหรับช่างและบุคคลทั่วไปสำหรับงาน FTTX และ Solar Roof-top 2 ล้านบาท ประกอบด้วยศูนย์อบรมช่างเกี่ยวกับการติดตั้งโซลาร์เซลบนหลังคา และศูนย์อบรมช่างเกี่ยวกับการติดตั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร

และ 5. เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

BPS มีชื่อเดิมคือ บริษัท บิ๊กไพศาล โปรเจค จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าภายในอาคาร ที่ครอบคลุมทั้งท่อร้อยสายไฟและอุปกรณ์ต่อสาย (Conduit & Fitting) สายไฟ สวิตซ์ไฟ ปลั๊ก เบรคเกอร์ สายล่อฟ้า สินค้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และอุปกรณ์โซลาร์เซล รวมถึงบริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้ง โครงการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์บนหลังคา และระบบควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้า โครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร นอกจากนี้บริษัทได้ขยายธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายภายในบ้านอยู่อาศัยและอาคารเชิงพาณิชย์

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า BPS ถือว่าเป็นบริษัทที่น่าสนใจ ในธุรกิจ TECH ด้านอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน และพร้อมที่จะสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ด้วยการนำเสนอ Solution ที่นำสมัย(Smart Home) เพื่อต่อยอดสินค้าและบริการที่มีอยู่ ให้เป็นผลิตภัณฑ์และบริการประเภทเทคโนโลยีและดิจิตัลแบบครบวงจร ตอบสนองลูกค้าในทุกมิติ" นายวิชา กล่าว นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บีพีเอส เทคโนโลยี (BPS) กล่าวว่า BPS ถือเป็นผู้นำด้านธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบไฟฟ้าครบวงจร การให้บริการติดตั้งโซลาร์เซลบนหลังคา (Solar Roof-Top) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า การวางระบบไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร รวมทั้งสินค้าเทคโนโลยีและการสื่อสาร ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่อำนวยความสะดวกสำหรับอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่

บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าและต่อยอดให้กับผลิตภัณฑ์และการให้บริการของ BPS เป็นอีกปัจจัยสำคัญสำหรับผู้พักอาศัย ที่สามารถอำนวยความสะดวกสบาย และเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สอดคล้องกับแนวคิดบ้านอัจฉริยะ นอกจากนี้ BPS มุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจาก Solar Roof-Top และโครงข่ายโทรคมนาคมตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ภายใต้แนวคิด One Stop Service ด้วยทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ยกระดับคุณภาพของธุรกิจและชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกกลุ่ม

วัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อลงทุนด้านอุปกรณ์และการติดตั้งงานเดินโครงข่ายไฟเบอร์ออพติก ในโครงการไฟเบอร์ออพติก Fiber to the Home (FTTX) สำหรับโครงการประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสูงมูลค่า 20 ล้านบาท รวมทั้งก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้สำหรับช่างและบุคคลทั่วไป ประกอบด้วยศูนย์อบรมช่างเกี่ยวกับการติดตั้งโซลาร์เซลบนหลังคา และระบบ Edge Data Center Facilities 24x7 Monitoring รวมถึงโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร จำนวน 4 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ

ส่วนโครงการในอนาคต บริษัทมีแผนขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาสำหรับลูกค้าประเภทอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และ โรงงาน รวมถึงองค์กรเอกชนหลายราย ขณะที่ธุรกิจนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ (SMART HOME) บริษัทได้นำเสนอนวัตกรรม Green Home Solution เพื่อตอบสนองในเรื่องของบ้านอยู่สบาย บ้าน Internet ความเร็วสูง บ้านประหยัดพลังงาน เป็น One Stop Service ในเรื่องอุปกรณ์ และงานติดตั้ง รวมถึงการติดตั้งโรงรถ (Garage Roof) การติดตั้งระบบระบายอากาศ (Airflow) และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า (EV Charger)

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เติบโต 10-15% โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่องในระดับ 10-15% ซึ่งในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นให้บริการในกลุ่มลูกค้า B2C โดยมีนวัตกรรม Green Home Solution ให้กับลูกบ้าน

ขณะที่ปัจจุบันภาวะตลาดอสังหาฯชะลอตัว แต่บริษัทมั่นใจในการให้บริการกับผู้ประกอบการอสังหาฯและลูกบ้าน ซึ่งตามปกติบ้านใหม่ที่ออกมาสู่ตลาด ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านแนวราบ ปีละประมาณ 3 แสนหน่วย ซึ่งบริษัทให้บริการอยู่ที่ปีละประมาณ 2-3 หมื่นหน่วย และยังสามารถขยายยอดขายได้อีก เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 10% ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทยังสามารถเติบโตได้อีกมาก


แท็ก ประกัน   บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ