ITD พุ่ง 22.22% หรือเพิ่มขึ้น 0.14 บาท มาที่ 0.77 บาท มูลค่าซื้อขาย 92.69 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.50 น.นำกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
CK บวก 1.37% เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มาที่ 22.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 39.56 ล้านบาท
NWR บวก 9.38% เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มาที่ 0.35 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.28 ล้านบาท
TEKA บวก 4.72% เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มาที่ 2.22 บาท มูลค่าซื้อขาย 715.370 บาท
TPOLY บวก 2.04% เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มาที่ 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 27.09 ล้านบาท
ขณะที่
STEC ลบ 0.96% ลดลง 0.10 บาท มาที่ 10.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.18 ล้านบาท
UNIQ ลบ 0.63% ลดลง 0.02 บาท มาที่ 3.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 113,100 บาท
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ตามที่ กทพ.เปิดประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการทางพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา ระยะทาง 16.2 กม. โดยกำหนดยื่นข้อเสนอ วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีบริษัทยื่นข้อเสนอ 4 รายได้ 1.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) 2.บมจ. ช.การช่าง (CK) 3.บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ 4.บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)
ขณะนี้คณะกรรมการประกวดราคาฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอถูกต้องตามที่กำหนดหรือไม่ รวมถึงข้อเสนอด้านราคา รายใดเสนอราคาต่ำสุดจะเป็นผู้ชนะการประกวดราคาครั้งนี้ คาดว่าจะประกาศผลผู้ที่ชนะการประกวดราคาได้อย่างเป็นทางการภายในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างหากไม่มีการอุทธรณ์ สามารถลงนามสัญญาได้ทันที ส่วนกำหนดการนั้น จะพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้ง คาดว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างภายในสิ้นปีนี้
โครงการทางพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา ใช้เงินลงทุนโครงการประมาณ 24,060 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน 3,726 ล้านบาท กรอบวงเงินงานโยธาประมาณ 19,000 ล้านบาท (ราคากลาง 18,739.55 ล้านบาท) ค่างานระบบประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะจัดประมูล ภายใน 1 ปี หลังจากประมูลงานโยธาไปแล้ว
สำหรับแหล่งเงินลงทุนโครงการจะมาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกใช้เงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) ที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 14,374 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกเกือบ 5,000 ล้านบาท จะใช้เงินกู้ ซึ่งได้หารือกับกระทรวงการคลังในเบื้องต้นแล้วไม่มีปัญหาเนื่องจากฐานะการเงินของ กทพ.อยู่ในระดับดี