(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นฟื้นตัวตามภูมิภาค รับตัวเลขว่างงานหสรัฐสูงกว่าคาด หนุนเฟดลดดอกเบี้ย

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นฟื้นตัวตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยมีแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน หนุนโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มีมากขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ให้น้ำหนักมากขึ้นเป็น 53.57% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือน.ก.ย.นี้ อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากสหรัฐเปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งพบว่ามีดีมานด์สูงถึง 2.41 เท่า มากกว่าซัพพลายที่ขาย และยังมากกว่าเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ 2.37 เท่า ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง หนุนสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับตัวขึ้น

ให้แนวรับที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (9 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,387.76 จุด เพิ่มขึ้น 331.37 จุด หรือ +0.85%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,214.08 จุด เพิ่มขึ้น 26.41 จุด หรือ +0.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,346.26 จุด เพิ่มขึ้น 43.51 จุด หรือ +0.27%
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 18,669.43 จุด เพิ่มขึ้น 131.62 จุด หรือ +0.71% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,158.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.27 จุด หรือ +0.14% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,361.79 จุด เพิ่มขึ้น 287.81 จุด หรือ +0.76%
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 พ.ค.) 1,369.29 จุด ลดลง 4.04 จุด (-0.29%) มูลค่าซื้อขาย 39,882.65 ล้านบาท
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,272.47 ล้านบาท (9 พ.ค.)
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 79.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 พ.ค.) อยู่ที่ 3.10 เหรียญ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 36.74 แข็งค่า รับดอลลาร์อ่อน-บอนด์ยีลด์ชะลอหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐสูงกว่าคาด
• "กัญชา"กลับเป็นยาเสพติด สะเทือนผลิตภัณฑ์กว่า 1,400 รายการ ทั้งวิสาหกิจชุมชน จนถึงบริษัทจำกัด (มหาชน) เครื่องสำอางมากสุด ขณะที่ "สมศักดิ์" เด้งรับ นายกฯ ทำให้เสร็จภายในปี 67 ลั่นมุ่งการแพทย์ และสุขภาพเพื่อเศรษฐกิจ ยันไม่กระทบผู้ประกอบการ ส่วนคนปลูกขอให้หยุดก่อน เตรียมทำประชาพิจารณ์
• "พลังงาน-อุตสาหกรรม" ตั้ง "วอร์รูม" ติดตามนิคมมาบตาพุดหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ถังจัดเก็บสารไพโรไลซิส สั่ง กฟผ.สำรองเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า สร้างความเชื่อมั่นระบบไฟฟ้าประเทศ ผู้ว่าฯ กนอ.ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 อพยพออกนอกพื้นที่ ปิดร่องน้ำท่าเรืออุตสาหกรรม ประเมิน 10 พ.ค.กลับมา เปิดทำการได้ปกติ คาดไม่มีโรงงาน ที่ได้รับผลกระทบ
• ตลท. ชี้ทิศทาง "หุ้นไทย" จ่อฟื้นต่อ ยังอยู่เรดาร์ลงทุนของต่างชาติ หลังรัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมคืนชีพกองทุนแอลทีเอฟ ดึงเม็ดเงินใหม่ไหลเข้า ปีละ 4-5 หมื่นล้าน หนุนเสถียรภาพตลาดมากขึ้นเชื่อสัดส่วนสถาบันเพิ่ม

หุ้นเด่นวันนี้

• BJC (เมย์แบงก์ฯ) แนะนำ ซื้อ เป้าเชิงกลยุทธ์ 35.00 บาท การรายงานงบ 1Q67 คาดชะลอตัว 13% YoY, 33% QoQ กดดันจากดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม และ Effective tax rate เพิ่มเป็น 20% จาก 1Q66 ที่ 8.2% เพราะมี tax credit จาก loss carry forward แม้ยอดขายและ GPM โต YoY จากธุรกิจ packaging และ BIGC ทำให้ EBITDA ยังโต double digit YoY ก็ตาม แต่เชื่อว่าปัจจัยนี้สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่ประเด็นที่สร้างแรงขับเคลื่อนราคาหุ้นได้มากกว่าคือ เรื่อง Index Play ที่ ตลท. ปรับเกณฑ์คัดเลือกเข้าคำนวณ SET50/SET100 ที่จะมีผลใน 2H67 ทำให้ BJC มีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือกเข้าคำนวณทั้ง SET50 และ SET100 รวมถึงด้ชนี SETESG อีกด้วย ซึ่งจะเป็นจุดดึงดูดเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามาสร้างแรงส่งต่อราคาหุ้นต่อไป
• CPALL (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 77 บาท จะประกาศกำไร 1Q67 วันนี้ เราคาดที่ 4.86 พันล้านบาท -13% q-q, +29% y-y หนุนจากยอดขายทั้ง 3 ธุรกิจที่ดีขึ้นและมี SSSG เป็นบวกราว 3.5-6% y-y ด้าน Margin ของธุรกิจ CVS ดีขึ้นจาก Product Mix ระยะสั้นโมเมนตัม 2Q67 คาดว่าจะเติบโตได้ทั้ง q-q และ y-y จากวันหยุดยาวและฤดูร้อนหนุนเครื่องดื่มขายดี Margin สูง เราคาดกำไรปีนี้ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท +16% y-y
• GULF (กสิกรไทย) แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 50.50 บาท บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 โดยมีรายได้รวม อยู่ที่ 32,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY และมีกำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 4,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YOY บริษัทฯ ยังคงประมาณการการเดิบโตของรายได้รวมในปี 67 อยู่ที่ประมาณ 25-30% จากโครงการที่ทยอยเปิดตำเนินการในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งปัจจุบันความต้องการใช้ Data Center เดิบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งภาครัฐและภาดเอกชน ในการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ และการใช้งานด้าน Artificial Intelligence (AI)