NER อวดรายได้-กำไรโค้งแรก รับอานิสงส์ราคายางเพิ่ม-บาทอ่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 10, 2024 11:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1/67 สำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.67 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขายรวม 6,541.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.60% แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 4,869.56 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 74.44% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 951.48 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 24.28% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 1,672.29 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 25.56% ของยอดขายรวม ลดลง 664.03 ล้านบาทหรือลดลง 28.42%

กำไรสุทธิเท่ากับ 453.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.93% ของรายได้จากการขายรวม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 139.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.29%

โดยรายได้จากการขายที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์ราคายางเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนนั้น ราคาขายสินค้ายางเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 16.45% เกิดจากสถานการณ์ราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 924.02 ล้านบาท และแบ่งเป็นผลต่างด้านปริมาณที่ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 639.94 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เท่ากับ 0.57 ล้านบาทหรือคิดเป็น 0.01% ของรายได้จากการขายรวม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวนเงิน 30.37 ล้านบาทหรือ 0.49% ของรายได้จากการขายรวม ลดลงจำนวน 29.81 ล้านบาทหรือลดลง 98.13% สัดส่วนที่ลดลงนี้เกิดขึ้นจากการรับชำระหนี้จากลูกหนี้การค้าต่างประเทศ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับสถาบันการเงินเพื่อการบริหารความเสี่ยงให้ลดลง

นายชูวิทย์ กล่าวว่า เป้าหมายการเติบโตปี 67 ด้วยสถานการณ์ยางพาราที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าไม่ต่ำกว่า 70 บาทต่อกิโลกรัม บริษัทได้รับอนิสงส์ตามความต้องการของตลาด (Demand) ภาวะฟื้นตัวของอุตสาหกรรมทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้น ที่มีความต้องการมากขึ้น การใช้งานมากขึ้นและยังมีย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศ ดังนั้นตลาด EV นับเป็นตลาดสำคัญของกลุ่มธุรกิจยางพารา

นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าในช่วงนี้เป็นบวกต่อบริษัท ซึ่งบริษัทเดินหน้าผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนความต้องการจากตลาดจีนอาจจะลดลงบ้างแต่เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบริษัทมีความพร้อมในการจำหน่ายยางสำหรับมาตรการ EUDR หรือ EU Deforestation-Free Regulation ซึ่งเป็นกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าที่จะเริ่มปีนี้ ซึ่งจะเป็นบวกกับบริษัทด้วยเช่นเดียวกัน เป็นโอกาสสร้างยอดขายในต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ