นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สโตนวัน (STX) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 1/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 11.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.39 ล้านบาท หรือ 132.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิ 10.19% เพิ่มขึ้น 3.52% และมีรายได้รวม 109.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.5% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายของผลิตภัณฑ์หลักเพิ่มขึ้น 29.42 ล้านบาท หรือ 48.5% โดยเฉพาะรายได้ของผลิตภัณฑ์กลุ่มหินแกรนิต 20 มม. ของเหมืองหนองข่า ที่รับรู้รายได้เต็มงวด ระยะเวลา 3 เดือน นอกจากนี้รายได้ของกลุ่มโดโลไมต์เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ทั้งในส่วนของโดโลไมต์ก้อนที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากลูกค้าและโดโลไมต์ผงที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่และรับรู้รายได้เต็มงวดในไตรมาส 1/2567 ในขณะที่บริษัทไม่มีรายได้จากการขายของโดโลไมต์ผงในไตรมาสแรกปีนี้
"โดยกำไร และรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการขายหินแกรนิตของเหมืองหนองข่า และรายได้ของโดโลไมต์ รวมทั้งรายได้อื่นจากการขายรถบรรทุกขนส่งล็อตสุดท้าย โดยบริษัทได้ปรับเปลี่ยนไปใช้การขนส่งจากผู้ให้บริการขนส่งภายนอกแทน (Outsource) ซึ่งสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายทรงวุธ กล่าว
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ในงวดไตรมาส 1/67 ในกลุ่มหินปูน : หินแกรนิต : โดโลไมต์ อยู่ที่ 43% : 37% : 20% ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนเปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 1/66 ที่มีสัดส่วนรายได้ของกลุ่มหินปูน : หินแกรนิต : โดโลไมต์ อยู่ที่ 70% : 24% : 6% ตามลำดับ
"สำหรับแนวโน้มผลงานในไตรมาส 2/67 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี จากความต้องการใช้หินที่เพิ่มมากขึ้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ทำให้โครงการเดิมที่รองบประมาณ และโครงการใหม่เดินหน้าต่อได้ รวมถึงราคาหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสนับสนุนผลประกอบการ STX คาดเติบโตมากกว่าเป้าหมาย Organic Growth ที่ระดับ 10% อีกทั้งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาจ่อรอคิวแน่น" นายทรงวุธ กล่าว
นายทรงวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และระดมทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทขอแจ้งความคืบหน้าโครงการลงทุนในอนาคตว่าความคืบหน้าของการหาเหมืองใหม่ จังหวัดชลบุรี ณ 31 มี.ค.67 ผู้ขายอยู่ระหว่างการยื่นคำขอประทานบัตรใหม่ โดยในระหว่างนี้มีการเจรจาและต่อรองกับผู้ขายอย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มเข้าลงทุนในเหมืองใหม่ ภายหลังการดำเนินการขอใบอนุญาตของผู้ขายแล้วเสร็จ
ส่วนความคืบหน้าของการหาเหมืองใหม่ จังหวัดเพชรบุรี ณ สิ้นไตรมาส 1/67 บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขการซื้อขายหุ้นของบริษัทผู้ขาย โดยบริษัทอยู่ในขั้นตอนการสรรหาผู้ประเมินมูลค่าสินทรัพย์และที่ปรึกษาทางกฎหมาย บัญชีและภาษี เพื่อตรวจสอบสถานะของเหมืองใหม่ หากผลการตรวจสอบสถานะเป็นที่น่าพอใจ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการซื้อเหมืองตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน โดยคาดว่าผลการตรวจสอบสถานะดังกล่าวจะแล้วเสร็จประมาณภายในช่วงต้นไตรมาส 3/67