นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PHG) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 66.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49.38% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 44.55 ล้านบาท ในขณะที่รายได้รวม 566.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 485.20 ล้านบาท
การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิและรายได้ของบริษัทสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าปกติ หรือ Normalized revenue ทั้งจำนวนรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล สามารถจำแนกรายได้ตามประเภทลูกค้า ได้แก่ รายได้จากกลุ่มลูกค้าทั่วไป ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้าคู่สัญญา รวมถึงรายได้จากกลุ่มลูกค้าโครงการสวัสดิการภาครัฐ ซึ่งประกอบด้วยโครงการประกันสังคม โครงการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. และโครงการสวัสดิการข้าราชการ
ทั้งนี้อัตราการครองเตียงในช่วงไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 77.39% ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 82.25% แต่ตัวเลขอัตราการเข้ารับบริการของผู้ป่วยนอกอยู่ที่ 68.09% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 60.47% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการในส่วนลูกค้าทั่วไป และลูกค้ากลุ่มสวัสดิการภาครัฐ โดยเฉพาะลูกค้าในโครงการประกันสังคม เนื่องจากโรงพยาบาลได้เปิดรับจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นในเดือน มี.ค.66 จาก 140,000 คน เป็น 156,000 คน โดยมีผู้ประกันตนเลือกใช้สิทธิกับโรงพยาบาลกว่า 155,000 คน
ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์รวม 2,403.04 ล้านบาท โดยมีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 273.02 ล้านบาท ลูกหนี้การค้า และลูกหนี้หมุนเวียนอื่นจำนวน 118.20 ล้านบาท รายได้ค่าบริการทางการแพทย์ค้างรับจำนวน 207.67 ล้านบาท สินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่นจำนวน 767.75 ล้านบาท และที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์จำนวน 860.47 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 373.72 ล้านบาท แบ่งเป็นเจ้าหนี้การค้า และเจ้าหนี้อื่นจำนวน 265.55 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 15.84 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2,029.32 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 0.18 เท่า