(เพิ่มเติม) AMATA คาดยอดขายที่ดิน Q2/51 ยังสูงกว่า 257 ไร่ใน Q1,ทั้งปี 1.7 พันไร่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 4, 2008 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหาร และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA) คาดว่า ยอดขายที่ดินในไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาสแรกที่มียอดขายที่ 257 ไร่ แม้จะมีข่าวเกี่ยวกับการปฏิวัติ แต่ก็เป็นเพียงข่าวลือ
พร้อมทั้งยังมั่นใจว่ายอดการขายที่ดินทั้งปียังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.7 พันไร่ ถึงแม้ว่าความขัดแย้งทางการเมืองจะทวีความรุนแรงขึ้น แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมั่นใจว่าการลงทุนภาคเอกชนจะเกิดนำพาไปได้ แต่อาจจะเกิดการชะลอการลงทุนออกไปบ้างเพื่อรอความชัดเจน
ผลกระทบหลักของบริษัทมาจากปัจจัยการเมืองเป็นหลัก ปัจจัยลบอื่นๆ แม้จะมีมาเรื่อย อย่างราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทุกประเทศได้รับผลเหมือนกันหมด แต่การเมืองเป็นปัจจัยเกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น
"เราไม่ได้กังวลเรื่องการขายที่ดินมากนัก เพราะยังเชื่อว่าการเซ็นสัญญาที่ดินจะยังเกิด น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ แต่การลงทุนอาจจะล่าช้าออกไป เพื่อรอความชัดเจน แต่ก็น่าเป็นห่วงเพราะมีผลทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง จะกระทบภาพกว้่างมากกว่า เพราะต้นทุนที่ดินเพียง 10%ของเงินลงทุนทั้งหมด"นายวิบูลย์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการนำบริษัท อมตะ(เวียดนาม) เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามนั้น ขณะนี้บริษัทได้ชะลอแผนออกไปก่อน จากการที่ดัชนีเวียดนามปรับลดจาก 1000 จุด เหลือ 400 จุด เลยจะต้องรอดูไปก่อน แต่บริษัทไม่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากอมตะเวียดนามไม่มีหนี้ และได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่แล้วเป็นการให้เช่าที่แทนการขาย จะทำให้บริษัทมีรายได้สม่ำเสมอ
นายวิบูลย์ กล่าวถึงการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าว่า จะเ็ป็นความร่วมมือกันของ 3 แห่ง คือ บริษัท อมตะพาวเวอร์ จำกัด บริษัท อมตะ ซิตี้ และ ซูมิโตโม โดยมีกำลังผลิตรวม 280 เมกะวัตต์ มูลค่า 12,800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 52 และเริ่มมีรายได้เข้ามาปี 55 โดยคาดหวังผลตอบแทนการลงทุนที่ 10%
นางสมหทัย พานิชชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ AMATA กล่าวว่า การนำอมตะเวียดนามเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม ขณะนี้คงยังไม่เห็นเพราะ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรง และก็ยังมีระยะเวลาในการศึกษาไปได้เรื่อยๆ หากสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่ก็ดำเนินการได้
ปัจจุบัน บริษัทยังมีพื้นที่ที่เวียดนามเหลืออีก 100 เฮกเตอร์ ซึ่งบริษัทได้ปรับมาเป็นลักษณะการให้เช่าแทน โดยจะเก็บไว้ขายในอนาคตเนื่องจากมองว่าราคาที่ดินที่อมตะเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ปรับขึ้นมาที่ 70 เหรียญ จากปีก่อน 46 เหรียญ
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมองหาที่เพื่อขยายเพิ่มในเวียดนาม แต่ไม่ได้เร่งรีบ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ