(เพิ่มเติม) PS ผุดโครงการใหม่ 23 โครงการ มูลค่า 1.04 หมื่นลบ.,ปรับแผนธุรกิจใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 6, 2008 17:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท(PS)กล่าวว่า บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ 23 โครงการ มูลค่า 10,418 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวเฮ้าส์ พฤกษาวิลล์, ทาวโฮม-เดอะคอนเน็ค, บ้านเดี่ยว-เดอะแพลนท์ และ ทาวโฮม 3 ชั้น - เดอะแพลนท์ เพื่อขยายธุรกิจด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ และหาทำเลใหม่  
"บริษัทได้ปรับแผนธุรกิจในการรองรับมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการรุกตลาดทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีรอบการดำเนินธุรกิจในระยะสั้น จะทำให้บริษัทรับรู้โครงการไ้ด้เร็ว" นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ การปรับแผนธุรกิจดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้บริษัทเปิดโครงการได้มากกว่าแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ 40 โครงการ
นายประเสริฐ คาดว่า ในไตรมาส 2/51 จะมีกำไรและรายได้โตอย่างก้าวกระโดดจากไตรมาส 1/51 ที่มีรายได้ 2.2 พันล้านบาทจากการที่บริษัทได้ปรับโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ทั้งบ้านเดี่ยว-ทาวเฮ้าส์ ที่ขยับเข้ามาในเมืองมากขึ้นทำให้ราคา่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น และเชื่อว่าอัตรากำไรขั้นต้น(GP)จะดีต่อเื่นื่องไปถึงสิ้นปี โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 37% จากปีก่อน 34.9%
"ในไตรมาส 1 เรามี GP ที่ดีขึ้นอยู่ที่ 37.41% ถึงแม้ Cost โดยรวมจะปรับเพิ่มขึ้นแต่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะมีสต็อคบางส่วน และเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือยังรักษา GP โตต่อเนื่องได้"นายประเสริฐ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 3/51 ยังจะเห็นการรุกตลาดคอนโดมิเนียมในรูปแบบใหม่ ๆ และคาดว่าจะเปิด 3 โครงการจากที่เปิดไปแล้ว 3 โครงการ จากทั้งปีมีแผนเปิด 8 โครงการ
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog)1.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถโอนในปีนี้ได้ 7-8 พันล้านบาท และจากยอดการโอนดังกล่าวทางบริษัทจะได้ประโยชน์กลับมาจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี 300 ล้านบาท จึงทำให้เรามองว่าเป้าหมายรายได้ที่วางไว้ 1.4 หมื่นล้านบาท และยอดขา่ย 2 หมื่นล้านบาทไม่น่าจะยาก เนื่องจาก 5 เดือนแรก pre-sale ไปแล้ว 7-8 พันล้านบาท ซึ่งโตกว่าปีก่อน 100%
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าให้มีสัดส่วนรายได้จากคอนโดฯเพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันที่ 20%
"การที่เราได้ปรับตัวโดยการรุกธุรกิจใหม่จากความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนและคู่แข่งที่น้อยทำให้เรามีความพร้อม ซึ่งจะสอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านดี่ยวและทาวเฮ้าส์ที่จะกลับมา การปรับตัวครั้งนี้ถือเป็นการรุกครั้งสำคัญและครั้งใหญ่ และมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้น" นายประเสริฐ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ