BEST คาดเข้าถือหุ้น APCราว 90%ใช้เป็นฐานขยายธุรกิจอสังหาฯ/ขอกลับหมวดปกติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 18, 2008 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เบสท์ โอเชียนกอล์ฟ (BEST)เผยหลังแลกหุ้นเพิ่มทุน บมจ.แอ๊ดว้านซ์เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล(ไทยแลนด์) (APC)จะปรับเปลี่ยนธุรกิจหลัก APC จากธุรกิจสีไปสู่อสังหาริมทรัพย์ โดยมีโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ประเดิมโครงการแรกปีนี้มูลค่ากว่าพันล้านบาทสร้างบ้านติดสนามบินรองรับกลุ่มเล่นเครื่องบินเล็ก ก่อนขยายไปสู่บ้านติดสนามกอล์ฟ คาดขอออกจากกลุ่ม NPG และเข้าเทรดหมวดปกติหลังเพิ่มทุนเสร็จสมบูรณ์ภายใน 3-4 เดือน
"สาเหตุที่เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ APC เนื่องจาก FA บอกว่าถ้าใช้วิธีนี้จะง่ายและเร็วกว่าก็จะทำให้โครงการไปได้เร็วกว่า ไม่เช่นนั้นก็ต้องรอผลประกอบการที่ดีกว่านี้ ซึ่งทาง FA ให้คำปรึกษามา"นายสิทธิชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
วานนี้ APC ระบุว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุน 3,500 ล้านหุ้นให้กับกลุ่ม BEST ในราคา 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 700 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้นของ BEST จำนวน 7 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท คิดเป็นมูลค่า 700 ล้านบาทเช่นกัน
"Property เราจะมีราคาเพิ่มขึ้นถ้าอยู่ในตลาดหุ้น ความมั่นใจของผู้ซื้อจะไปอีกระดับหนึ่ง ถ้าไม่ได้อยู่ในตลาดฯก็ว่าอีกระดับหนึ่ง ส่วนจะเรียก backdoor หรือ takeover เป็นการเทคฯแบบ friendly หมายถึงเราต้องการ listed เค้าเองก็มีปัญหา ก็ให้ผลประโยชน์ทุกคนดี เป้าหมายเราตรงนั้น ทำธุรกิจทุกคนต้องดี ผู้ถือหุ้นต้องดี เราก็ต้องให้เค้าบ้าง ไม่ควรทำอะไรที่ทำให้คนเดือดร้อน"นายสิทธิชัย กล่าว
นายสิทธิชัย ซึ่งมีธุรกิจอยู่ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ทั้ง BEST และเป็นผู้ร่วมทุนกับกลุ่มสามโกเศศในบริษัท ม่อนพญาพรหม เจ้าของ"สนามกอล์ฟ เชียงใหม่ ไฮแลนด์ กอล์ฟ สปา แอนด์ รีสอร์ท"ที่ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากการแลกหุ้นแล้ว BEST จะเข้าถือหุ้นใน APC ประมาณ 80-90% กว่า โดยผู้ถือหุ้น BEST จะชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน โดยนำหุ้นของ BEST มาชำระแทนเงินสด โดยหุ้นของ APC จำนวน 500 หุ้น จะชำระด้วย 1 หุ้นของ BEST
"เรื่องเพิ่มทุนอยู่ในโปรเซสคาดว่า 2-3 เดือนนี้จะเสร็จ ตอนนี้ APC ขาดทุนงบเป็น O อยู่แล้ว ก็ให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีมูลค่าหน่อยหนึ่งจะได้ไม่ต้องขาดทุนเยอะ เราใช้หลักทรัพย์และทุนจดทะเบียนของ BEST ตีมูลค่าเข้าไปเพิ่มทุนแลกหุ้นละ 20 สตางค์ ก็เท่ากับแลกและรวมกัน หลังเข้าไปจะถือหุ้น APC 90% กว่าเพราะมีวอร์แรนท์ที่จะมาแปลงอีก"นายสิทธิชัย กล่าว
*เตรียมเปลี่ยนชื่อ-ย้ายหมวด-กลับเข้าเทรด
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเตรียมที่จะพิจารณาเปลี่ยนชื่อบริษัท APC และย้าย APC ออกจากกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด ซึ่งทางที่ปรึกษาทางการเงิน(FA)คาดว่าหลังเสร็จสิ้นกระบวนการเพิ่มทุนน่าจะย้ายได้ภายใน 3-4 เดือนเพื่อเข้าเทรดในหมวดปกติ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าไปอยู่ในหมวดใด เพราะธุรกิจใหม่จะเกี่ยวข้องกับหลายส่วน
"หลังเพิ่มทุนเสร็จจะย้ายกลับเข้ามาเทรดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทันทีหรือเปล่า ยังไม่ทราบ เพราะตรงนี้มีธุรกิจหลายอย่างที่เกี่ยวโยง เช่น บริการ โรงแรม รีสอร์ท ยังไม่ทราบว่าจะเข้าหมวดไหน ซึ่งโครงการในมือกำลังจะเปิดอยู่หลายโครงการ กำลังประชุมกรรมการว่าจะทำอย่างไรต่อ"นายสิทธิชัย กล่าว
ส่วนเงื่อนไขที่ BEST จะต้องปรับโครงสร้างหนี้ก่อนแลกหุ้นนั้น เนื่องจากมีธนาคารที่ผิดสัญญากับเรา ธนาคารก็จะปรับลดดอกเบี้ยให้เราพอชดใช้ค่าเสียหายให้ คาดว่าจะจบภายในสัปดาห์หน้า โดย BEST มีหนี้ประมาณ 400-500 ล้านบาท ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ของเราเกือบ 1,700-1,800 ล้านบาท
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ผลประกอบการของ APC ที่ขาดทุน เชื่อว่าโครงการเรามีกำไรที่จะไปใช้ประโยชน์ตรงนั้นได้ โดยปัจจุบัน APC มีหนี้ไม่มากประมาณ 50-60 ล้านบาทกับธนาคารทหารไทย(TMB) ก็ขายสินทรัพย์ทางด้านโรงงานและเครื่องจักรมาชำระหนี้
"พอไปดูเห็นโรงงานเก่าแล้วและเราไม่ได้อยู่ในไลน์นั้นด้วย ถือแล้วก็ไม่มีทางได้ธุรกิจเดิมเพราะเราไม่ชำนาญ ถ้าชำนาญก็อาจจะไปเสริมพัฒนาได้ แต่เรามีงานใหญ่กว่าที่จะต้องทำ"นายสิทธิชัย กล่าว
*วางโครงการพัฒนาอสังหาฯ จากที่ดินในพอร์ต BEST
นายสิทธิชัย กล่าวว่า โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่วางแผนงานไว้สำหรับ APC มีหลายโครงการจากสินทรัพยที่ BEST มีอยู่ ทั้งโครงการบ้านติดสนามบิน และสนามกอล์ฟ ที่พักอาศัย รีสอร์ท ทั้งที่กำลังจะเปิดบริการในปีนี้และรวมกับที่เปิดบริการไปปีกว่าแล้ว โดยโครงการแรกหลังเข้าไปถือหุ้น APC อาจจะเป็นโครงการบ้านติดสนามบินที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือผู้ที่ชอบเครื่องบินเล็ก เป็นโครงการนำร่องมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดโครงการได้ในปีนี้
นอกจากนั้น BEST ยังมีที่ดินติดสนามกอล์ฟขนาด 36 หลุม แต่ในปัจจุบันเปิดให้บริการ 18 หลุม ส่วนอีก 18 หลุมที่เหลือกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้าง ตั้งอยู่แถว ก.ม.18-19 ถ.พระะราม 2 และยังมีที่ดินอยู่หลายพันไร่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ BEST อยู่ระหว่างพิจารณาการบอกเลิกสัญญากับต่างชาติที่ร่วมบริหารสนามกอล์ฟและรีสอร์ทว่าจะกระทบกับรายได้หรือไม่ หากจะดำเนินการเอง และผลกระทบด้านคู่ค้าจะเป็นอย่างไร ส่วนการดึงต่างชาติเข้ามาร่วมทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ ยังแค่เป็นการพูดคุยกัน
สำหรับ BEST เพิ่งประกอบการมาได้ปีกว่าๆ โดยปี 50 มีรายได้รวม 38 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3.9 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดมีกำไร 4-5 ล้านบาท เนื่องจากการบริหารสนามกอล์ฟต้องสร้างเพิ่มเพื่อรองรับต่างชาติ แต่รายได้ในอนาคตน่าจะมาจากการพัฒนาที่ดินรอบสนามเป็นหลักเพราะได้มูลค่ามากกว่า
นายสิทธิชัย กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจสนามกอล์ฟภายใต้ปัญหาน้ำมันแพง เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขาขึ้นว่า กลุ่มผู้เล่นกอล์ฟส่วนใหญ่ก็ยังคงเล่นกอล์ฟตามปกติ โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติ อย่าง จีน ญี่ปุ่น หรือยุโรป ที่ไม่สามารถตีกอล์ฟในประเทศของเขาได้ในฤดูหนาว หากเราทำการตลาดดี เน้นเรื่องการบริการ และความสวยงามของสนาม เพราะค่าบริการในประเทศยังถูกกว่าฮ่องกงหรือจีน เป็นเท่าๆ ยิ่งหากอัพเกรดเป็น 5 ดาวก็จะสามารถดึงการแข่งขันระดับทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ๆ เข้ามาได้ ก็จะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ