ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและสถาบันการเงินจากปัจจัยหนุนด้านราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลงอย่างหนักได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งภาวะดังกล่าวช่วยชดเชยแรงเทขายหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่และพลังงานที่ดิ่งร่วงลงได้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 11.70 จุด แตะระดับ 5,489.20 จุด ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงเกือบ 5 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 115.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้นได้ช่วยให้ตลาดคลายความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคเเอกชน ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มธนาคารเคลื่อนไหวพุ่งนำตลาดปิดในแดนบวกได้สำเร็จ แม้จะได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลต่อภาคธุรกิจการเงินในสหรัฐอยู่บ้างในกรณีที่แฟนนี่ เม ผู้ปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐรายงานตัวเลขขาดทุนหนักกว่าคาด โดยหุ้นโรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ปิดพุ่งขึ้น 3.2% หลังจากที่ธนาคารรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่หุ้น HSBC ปิดบวก 1.9% นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีกเดินหน้าขึ้นสู่แดนบวกถ้วนหน้า โดยมีหุ้นมาร์ก แอนด์ สเปนเซอร์ดีดขึ้น 1.4% และหุ้นคิงฟิชเชอร์ไต่ระดับขึ้น 3.9% อย่างไรก็ตาม จากภาวะราคาน้ำมันที่รูดลงอย่างหนักได้กดดันให้หุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ปิดดิ่งลงในวันนี้