DTAC มั่นใจปีนี้กำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อน/ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำตลาด

          บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC) มั่นใจกำไรสุทธิปี 51 สูงกว่าปีก่อนแน่นอน แม้ไม่รวมกำไรพิเศษจาก DPC หลังดันกำไรขั้นต้นถึง 30% ด้านนายใหม่ "ทอเร่ จอห์นเซ่น" หวังขึ้นเป็นเบอร์ 1 หากมี 3G และนัมเบอร์พอร์ต 
          นายซิคเว่ เบรกเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าวว่า บริษัทยังมั่นใจว่าในปี 2551 จะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานสูงกว่าปีก่อน รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าปีก่อนด้วย โดยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 30% จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย 29% 
          "ปีนี้ยังไงเราก็มีกำไรสูงกว่าปีก่อนเพราะเราได้เงินชดเชยจากกรณี DPC ตามคำสั่งศาล แต่หากไม่รวมกำไรพิเศษนี้ก็มั่นใจว่ากำไรสุทธิสูงกว่าปีคก่อนถึงแม้เป้าหมายรายได้ที่เดิมคาดว่าจะโต 5-10% มาอยู่ที่เติบโตเพียง 5% หลังภาวะเศรษฐกกิจชะลอตัวประชาชนประหยัดค่าใช้จ่าย แต่บริษัทก็มีการปรับตัวเพื่อให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นด้วยเช่นกัน" นายซิคเว่ กล่าว
          อย่างไรก็ตามการเข้ามารัตำแหน่งของนายทอเร่ จอห์นเซ่น ที่จะมารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC คนใหม่นั้น ถือว่าเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมีประสบการณ์ทำงานกับเทเลนอร์มาถึง 35 ปี และเป็นผู้บุกเบิกตลาดเอเชียใต้อย่างปากีสถานจนมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ในปัจจุบัน และเชื่อว่าบุคลิก รวมถึงความสามารถในการทำงานจะสอดคล้องกับองค์กร DTAC ในประเทศไทยเป็นอย่างดีรวมถึงเชื่อว่าจะกลายมาเป็นแบรนด์ซีอีโอคนใหม่แทนตนเองได้ 
          "ภาพลักษณ์แบรนด์ซีอีโอของผมที่มีต่อดีแทคอาจทำให้คนติดภาพเหล่านั้น แต่คุณทอเร่ก็มีความเป็นแบรนด์ซีอีโอเช่นเดียวกับผม คือเป็นคนดี ใจดี อารมณ์ดี และพูดจริงทำจริง ส่วนการที่คุณทอเร่จะมาทำเช่นเดียวกับผมอย่างการโฆษณาหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่คุณทอเร่สามารถเลือกปฏิบัติได้ และผมเชื่อว่าคนจะจดจำคุณทอเร่ได้เช่นเดียวกับผม" นายซิคเว่ กล่าว 
          ด้านนายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC คนใหม่ กล่าวว่า ภารกิจแรกที่จะทำหลังรับตำแหน่ง คือการเพิ่มส่วนต่างกำไร(Margin)ให้กับดีแทค โดยจะเห็นชัดเจนในปี 2552 ซึ่งมีเป้าหมายคือต้องรักษาอัตากำไรขั้นต้นให้สูงกว่า 30% รวมทั้งการพัฒนา 3G หลังการได้รับใบอนุญาตให้ทำ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ซึ่งจะสามารถทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าผู้ให้บริการโทรคมนาคมเบอร์ 1 อย่างแอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส(AIS) และเป็นโอกาสที่สร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
          รวมทั้งการที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) จะจัดทำ Number Port ซึ่งผู้ใช้มือถือสามารถเปลี่ยนโครงข่ายได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลขหมายเดิมที่ใช้เชื่อว่าลูกค้าของ AIS จะเปลี่ยนมาใช้โครงข่าย DTAC มากขึ้น และการครองสัดส่วนลูกค้าจะเป็นการแข่งขันกันที่การให้บริการ 
          อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า AIS เป็นผู้นำตลาดผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ครองอันดับ 1 มากว่า 10 ปี นับตั้งแต่เทเลนอร์เข้ามาร่วมทุนกับแทค ซึ่งเข้มแข็งมากและครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 มาต่อเนื่องยาวนาน ดังนั้นการที่ดีแทคจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 เป็นเรื่องยากแต่การเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้หวังว่าดีแทคจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ได้แต่ไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไร 
          "ช่วง 2-3 เดือนแรก ผมคงต้องใช้เวลาในการปรับตัว ศึกษางานที่คุณซิคเว่ ทำไว้คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนเพราะคุณซิคเว่วางรากฐานไว้ดีมาก ส่วนการที่ผมจะทำหน้าที่เป็นแบรนด์ซีอีโอเองเช่นเดียวกับที่คุณซิคเว่ทำหรือไม่นั้นต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง" นายทอเร่ กล่าว
          นายทอเร่ กล่าวต่อว่า ในปี 2552 สิ่งที่ DTAC ต้องทำอย่างจริงจังคือการพัฒนาระบบ 3Gและเน้นการพัฒนาอินเทอร์เน็ต บรอดแบรนด์ บนโทรศัพท์มือถือหลังคาดว่าการพัฒนาระบบ 3G จะแล้วเสร็จในปลายปีนี้