ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 5.9 จุดขายทำกำไรกลุ่มแบงก์ กังวลวิกฤตศก.สหรัฐรอบใหม่/การเมืองอึมครึม

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 691.33 จุด ลดลง 5.90 จุด(-0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 8,679 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 695.16 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 686.24 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ 82 เพิ่มขึ้น  หลักทรัพย์ ลดลง 235 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 115 หลักทรัพย์
          นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นบ่ายนี้ปรับตัวลง จากปัจจัยภายนอกส่วนหนึ่งที่มาจากความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกและเรื่องของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่ยังมีความอึมครึมทำให้ตรงนี้คาดว่ากองทุนน่าจะอยู่ฟากของการขายทำกำไรโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร 
          "วันนี้เรื่องการเมืองอาจจะไม่ใช่ตัวแปรหลักที่ทำให้ลงแต่เป็นตัวแปรที่ดึง local ไม่เทรดหรือกองทุนอาจจะค่อยๆขายทำเงินสด ก็ทำให้ตลาดอ่อนตัวลงและมีโอกาสปรับลงได้ง่าย ขณะที่ตลาดต่างประเทศปรับลงด้วยปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว Fannie Mae และ Freddie Mac ก็มีปัญหา" นายพงษ์พันธ์ กล่าว
          แนวโน้มพรุ่งนี้ยังคงปรับลงแต่อัตราการลงคงไม่สูง เพราะราคาน้ำมันก็เริ่มลงมาและการขาย profit taking ในกลุ่มแบงก์ก็เกิดขึ้นมา 2-3 วันแล้วลงมาประมาณ 5-7% ก็น่าจะสมเหตุสมผล เพราะฉะนั้นโมเมนตั้มการลงอาจจะน้อยลง 
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 760.30 ล้านบาท ปิดที่ 270.00 บาท ลดลง  2.00 บาท
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย 614.19 ล้านบาท ปิดที่  71.00 บาท ลดลง  2.00 บาท
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 606.08 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
          BBL   มูลค่าการซื้อขาย 417.51 ล้านบาท ปิดที่ 115.00 บาท ลดลง  4.00 บาท
          SCB   มูลค่าการซื้อขาย 392.77 ล้านบาท ปิดที่  78.00 บาท ลดลง  1.00 บาท