CPALL เผยไม่กระทบกรณีคลังชะลอขายหวยออนไลน์,รับผลดีภาวะฉุกเฉิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 3, 2008 10:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ซีพี ออลล์(CPALL)เผยคลังชะลอขายหวยออนไลน์ไม่กระทบธุรกิจเพราะเป็นแค่เจ้าของสถานที่ติดตั้งเครื่องจำหน่าย ส่วนที่มีการติดตั้งเครื่องไปแล้วในบางสาขาก็คงจะแล้วแต่รัฐบาลว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนสถานการณ์การเมืองขณะนี้เชื่อว่าการที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินน่าจะส่งผลดีต่อยอดขายมากกว่าแง่ลบ เพราะคนคงไม่อยากออกจากบ้านไปไหนไกล หันมาเลือกจับจ่ายสินค้าใกล้บ้านแทน
ขณะที่แผนการเปิดสาขาใหม่ยังคงเดินหน้าอย่างเนื่องเพื่อให้ครบ 5 พันแห่งภายใน Q3/52 โดยจะเน้นพื้นที่แถบชานเมือง ปริมณฑล และต่างจังหวัดเป็นหลัก
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการบริหาร CPALL เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลชะลอแผนการจำหน่ายหวยออนไลน์ออกไปก่อน แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจำหน่ายหวยออนไลน์ในร้านเซเล่นอีเลฟเว่น ส่วนหลังจากนี้จะเอาอย่างไรต่อไปก็คงจะขึ้นอยู่กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องจำหน่าย
"เรื่องนี้แล้วแต่รัฐบาล แล้วแต่กองสลากฯ เพราะเขาเป็นเจ้าของเครื่อง เราเป็นเจ้าของสถานที่ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ส่วนที่ดำเนินการติดตั้งไปบ้างแล้วในบางสาขาก็ไม่เป็นไรก็คงเหมือนกับตู้ A.T.M. ที่เริ่มติดตั้งแล้วแต่ยังใช้งานไม่ได้"นายสุวิทย์ กล่าว
ล่าสุด รมช.คลังให้ชะลอแผนการขายสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวผ่านเครื่องขายอัตโนมัติ(หวยออนไลน์)จากกำหนดเดิมจะเริ่มขายวันที่ 17 ก.ย.นี้ ในงวดการออกรางวัลวันที่ 1 ต.ค.หลังมีผู้ร้องเรียนจำนวนมากเกี่ยวกับวิธีการขายหวยออนไลน์ และสัญญาที่ทำไว้กับ บ.ล็อกซเล่ย์ จีเทคโนโลยี จึงเห็นว่าควรให้พิจารณาอย่างรอบคอบ และจะส่งเรื่องคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตรวจสอบข้อกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของ CPALL เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ปัจจุบันบริษัทฯ กำลังดำเนินการติดตั้งเครื่องจำหน่ายหวยออนไลน์ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 700 สาขาทั่วประเทศ
*ภาวะฉุกเฉินส่งผลดีต่อยอดขาย-เดินหน้าเปิดครบ 5 พันสาขาทั่วปท.ใน Q3/52
นายสุวิทย์ กล่าวถึงสถานการณ์เมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ว่า ธุรกิจของบริษัทยังเดินไปได้ตามปกติ เนื่องจากร้านค้าของบริษัทเน้นขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีผลกระทบมากนักก ตรงกันข้ามอาจจะมีผลดีในแง่การที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน คนอาจจะไม่กล้าออกไปไหนไกล ๆ แล้วเลือกซื้อของที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมากขึ้น
"รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินคนอาจจะไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนไกลๆ เวลาซื้อของก็คงเลือกซื้อใกล้บ้าน แต่เรื่องตัวเลขตอนนี้คงยังวัดไม่ได้ เพราะยังเร็วเกินไป"นายสุวิทย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากเทียบปีนี้กับปีที่แล้วยอดขายปีนี้ดีกว่าจากหลายสาเหตุ ที่สำคัญ คือ ราคาน้ำมันแพงคนไม่อยากไปซื้อสินค้าไกลๆ ประกอบกับราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันทำให้เราสามารถปรับราคาสินค้าที่ขายในร้านได้เฉลี่ยประมาณ 5% ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
นายสุวิทย์ กล่าวว่า แม้เหตุการณ์การเมืองจะยังอึมครึม แต่บริษัทก็ยังคงแผนเปิดสาขาต่อเนื่อง โดยในช่วงที่เหลือของปี 51 (ก.ย.-ธ.ค.51) มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 120 สาขา เน้นพื้นที่ชานเมืองและปริมณฑล 50% และต่างจังหวัดอีก 50%
"ส่วนในกรุงเทพเริ่มเหลือพื้นที่น้อยแล้ว เราเลยหันไปเน้นแถบชานเมืองและปริมณฑล รวมทั้งพื้นที่แนวรถไฟฟ้าเส้นเดิมและเส้นใหม่ๆที่กำลังจะเกิด"นายสุวิทย์ กล่าว
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มีประมาณ 4,600 สาขา และตั้งเป้าหมายเปิดครบ 5 พันสาขาภายในไตรมาส 3/52 ใช้งบลงทุนราว 2 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ