(เพิ่มเติม) PTT เลื่อนออกหุ้นกู้ทั้งเครือไม่มีกำหนด/รายได้รวมตามเป้า แต่กำไรใกล้เคียงปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 8, 2008 16:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

           นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT)  เปิดเผยว่า แผนออกหุ้นของกลุ่มปตท.ทั้งหมดในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ รวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คงต้องชะลอ ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่สถานการณ์การเมืองยังคงมีปัญหาทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น ในการลงทุนในประเทศไทย รวมทั้ง ปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลทำให้ต้นทุนการออกหุ้นกู่จะอยู่ในระดับสูง จึงไม่คุ้มที่จะออกหุ้นกู้ในช่วงนี้
"ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่เอื้ออำนวยที่จะออกหุ้นกู้ ต่างชาติก็ขาดความมั่นใจที่จะมาซื้อหุ้นกู้ของเรา ดังนั้นต้องหยุดชะลอแผนออกไปก่อนจากแผนเดิมที่จะออกในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ทั้งกลุ่มไทยออยล์(TOP) และกลุ่มปตท.เอง ต้องชะลอออกไปก่อน ถ้าเลี่ยงมาขายในประเทศก็เชื่อสภาพคล่องไม่เพียงพอต่อขนาดหุ้นกู้ของปตท. เราจึงต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด "นายประเสิรฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การลงทุนของกลุ่มปตท.รวมกันประมาณ 1 แสนล้านบาทในช่วง 5 ปี จะยังคงเดินหน้าต่อไปตามแผนงาน โดยเบื้องต้นจะใช้กระแสเงินสดของแต่ละบริษัทนำมาลงทุนก่อน ซึ่งเชือ่ว่าเพียงพอต่อการลงทุน
ส่วนผลประกอบการดำเนินงานในไตรมาส 3/51 คาดว่าจะปรับตัวลงจากไตรมาส 2/51 เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจาก 130-140 เหรียญ/บาร์เรลในไตรมาส 2 มาอยู่ต่ำกว่า 110 เหรียญ/บาร์เรลในปัจจุบัน ทำให้บางบริษัทประสบผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน แต่จากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าจะส่งผลดีต่อการบันทึกบัญชีที่เป็นรูปเงินบาท จึงเชื่อว่า รายได้ทั้งปี 51 จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2 ล้านล้านบาท แต่กำไรสุทธิคงใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากต้นทุนเพิ่ม
"ยอมรับว่ารายได้และกำไรในช่วงไตรมาส 3 จะต่ำกว่าไตรมาส 2 เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงเยอะ แต่เมื่อเทียบกับกับงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้และกำไรจะไม่ขี้เหร่มากนัก และยอมรับได้ ทำให้ทั้งปี ยังคงเป้าหมายรายได้ที่ 2 ล้านล้านบาท แต่กำไรคงใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นเยอะ" นายประเสริฐ กล่าว
ส่วนราคาหุ้นในตลาดของกลุ่มปตท.นายประเสริฐ ยอมรับว่าขณะนี้ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาก แต่ก็อยู่ระหว่างการศึกษาซื้อหุ้นคืนแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป และยืนยันว่าการซื้อหุ้นคืน ไม่ได้เป็นการสร้างราคาหุ้น แต่เห็นว่าราคาหุ้นในกลุ่มปตท.ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเป็นไปตามภาวะโดยรวม
ขณะเดียวกัน นายประเสริฐ กล่าวถึงภาวะราคาน้ำมัน หากโอเปกมีมติลดกำลังการผลิตลง ก็อาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่มากนัก ส่วนราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ยังไม่มีการพิจารณาปรับลดในช่วงนี้ เพราะค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์มีจำนวน 1 บาท/ลิตร ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากจะต้องมีการนำเงินส่งเข้ากองทุน 0.30 บาท/ลิตรด้วย ดังนั้นแม้ราคาน้ำมันโลกจะอ่อนตัว ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ