TIPCO ส่งสินค้าออกสู่ตลาดต่อเนื่องใน-ตปท.ดันยอดขาย H2/51 สูงกว่า H1/51

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 10, 2008 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้ ฟู้ดส์ (ประเทศไทย)กล่าวกับ “อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายจะสูงกว่าครึ่งปีแรกที่มียอดขาย 2.59 พันล้านบาท  
ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะออกน้ำผลไม้และผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง มีทั้งการเสนอน้ำผลไม้รสชาดใหม่ออกสู่ตลาดทุกเดือน และในช่วงไตรมาส 4/51 บริษัทจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 1 แบรนด์ภายใต้ความร่วมมือกับทางซันโตรี่ที่เป็นพันธมิตรเพื่อทำตลาดในภูมิภาคอาเซียน
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เหลือของปียังมีความผันผวนทางธุรกิจ รวมทั้งความไม่แน่นอนต่าง ๆ ทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ท้าทาย โดยเฉพาะความผันผวนของค่าเงินบาทและอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งต้นทุนหลักเพิ่มขึ้นทั้งราคาผลไม้ บรรจุภัณฑ์ และราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า รวมทั้งแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงและความตึงเครียดทางการเมือง
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า จากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทำให้บริษัทได้เตรียมแผนงานที่จะบริหารความเสี่ยงอย่างใกล้ชิดและทันต่อสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจ รวมทั้งการบริการจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทและยอดขายครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรกที่ 2.59 พันล้านบาท แม้ว่าสถานการณ์การเมืองจะส่งผลให้คนระมัดระวังการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่สินค้าของเราเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพและเป็นสินค้าจำเป็นจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก รวมทั้งบริษัททำการตลาดกระตุ้นตลาดต่อเนื่องและยังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เชื่อว่าจะสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายรวมถึงกำไรสุทธิปีนี้สูงกว่าปีก่อนแน่นอน"นายวิวัฒน์ กล่าว
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับเฉลี่ย 22% ใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกและสูงกว่าปีก่อน หลังจากที่บริษัทปรับขึ้นราคาขายสินค้าที่ทำการส่งออกทุกผลิตภัณฑ์เฉลี่ยประมาณ 10% ส่งผลให้เฉลี่ยอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น แม้ว่าผลิตภัณฑ์ในประเทศยังไม่มีการปรับราคา เนื่องจากสถานการณ์แข่งขันรุนแรง
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ในปีนี้มาจากต่างประเทศ 50% และในประเทศ 50%
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า โรงงานแห่งใหม่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้กำลังการผลิตอยู่ในระดับที่น่าพอใจและมีการติดตั้งเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วย ยอมรับว่าโรงงานใหม่จะส่งผลให้บริษัทบันทึกค่าเสื่อมราคาเข้ามาในปีนี้ แต่การที่มีโรงงานใหม่ที่อำเภอวังน้อยส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งลดลงอย่างชัดเจน ถือว่าคุ้มกับการลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ