ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและภาคการเงิน หลังจากสภาคองเกรสสหรัฐไม่อนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยนักลงทุนกังวลว่าวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐอาจลุกลามเข้าไปสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจในยุโรปด้วย สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วงลง 483.75 จุด หรือ 4.12% แตะที่ 11,259.86 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีพ.ศ.2548 สภาคองเกรสสหรัฐมีมติไม่รับแผนฟื้นฟูภาคเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ตามที่รัฐบาลสหรัฐยื่นเสนอ โดยสมาชิกสภาคองเกรสพิจารณานานหลายชั่วโมง จึงได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 228 ต่อ 205 เสียง ไม่รับรองร่างกฎหมายแผนฟื้นฟูภาคการเงิน โดยให้เหตุผลว่าไม่มั่นใจในแผนฟื้นฟูฉบับนี้ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดฮวบลง 777.68 จุด หรือ 6.98% ปิดที่ 10,365.45 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ฮิโรอิชิ นิชิ นักวิเคราะห์จาก Nikko Cordial Securities Inc. กล่าวว่า "การที่สภาคองเกรสไม่อนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาด เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ออกมาเป็นระลอกว่าคองเกรสจะอนุมัติแผนการดังกล่าวแน่นอน ข่าวลบในช่วงเช้านี้ได้สร้างแรงกดดันให้กับตลาด และฉุดดัชนีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี" นอกจากนี้ ข่าวสภาคองเกรสไม่อนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินของสหรัฐยังฉุดตลาดหุ้นอื่นๆในเอเชียดิ่งลงถ้วนหน้า อีกทั้งยังจุดกระแสความวิตกกังวลว่า วิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐจะส่งผลให้มีธนาคารล้มละลายอีก และอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของยุโรปด้วย