นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่กระทบกับตลาดหุ้นไทยในขณะนี้มาจากประเด็นวิกฤติสถาบันการเงินต่างประเทศ ซึ่งทำให้นักลงทุนทั่วโลกเกิดความกังวลอย่างมาก ขณะที่ประเด็นการเมืองในประเทศน่าจะคลี่คลายลงได้ในเร็ว ๆ นี้ ปัญหาใหญ่หรือจุดสนใจตอนนี้คือการแก้ไขปัญหาเรื่องวิกฤติการเงินในต่างประเทศ เนื่องจากตลาดมองกันว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาของฝั่งยุโรปไม่คืบหน้า กระบวนการแก้ปัญหาในยุโรปยังมีคำถามหลายส่วน ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล ขณะที่ทางสหรัฐมีการแก้ไขปัญหาที่เร็วกว่า การแก้ปัญหาในสหรัฐฯ ฟื้นเร็วเพราะธนาคารกลางใส่เงินเข้าไป ขณะที่ยุโรปแก้ไม่ถูกจุด ขณะที่เกิดปัญหาธนาคารกลางยุโรปยังเน้นขึ้นดอกเบี้ยไปอีก ทำให้การแก้ปัญหาของยุโรปยังมีปัญหา อยากให้ติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนปัญหาการเมืองในประเทศไทยนั้น ยังไม่เป็นปัจจัยทำให้เกิดความเสียขวัญ แม้ว่าวันนี้จะมีการสลายการชุมนุม แต่เชื่อว่าจะคลี่คลายในเร็วๆ นี้ นายธีระชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าลงทุนกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรป โดยดัชนี SET มีโอกาสกลับมาเคลื่อนไหวเป็นฟันปลามากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคก็ยังมีศักยภาพและสามารถพัฒนาประเทศด้วยการลงทุนในประเทศได้อีกมาก หากเปรียบเทียบตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นของไทยยังมีความน่าสนใจในการลงทุนเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในสหรัฐและยุโรป หลังจากที่เกิดปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินขนาดใหญ่ สำหรับปัญหาการเมืองในขณะนี้ ไม่อยากให้มีความกังวลเพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ถึงแม้วันนี้จะมีความเข้มข้นมากขึ้น แต่เชื่อว่าจะคลี่คลายได้ในเร็ว ๆ นี้ และประเด็นดังกล่าวยังไม่ได้เป็นประเด็นที่ต่างชาติตกใจ และไม่อยากให้มองถึงขั้นยุบสภา อยากให้ติดตามเพราะเชื่อว่าภายใต้กระบวนการในประเทศน่าจะมีการประนีประนอมกันได้ "ผมไม่อยากให้มองไปถึงขั้นยุบสภา ถึงแม้วันนี้จะรุนแรง อยากให้ติดตามไปก่อน เราต้องมีความหวัง เพราะเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในประเทศน่าจะมีการประนีประนอมตกลงกันได้" เลขาก.ล.ต. กล่าว นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กที่เคลื่อนไหวอย่างหวือหวา นักลงทุนที่จะลงทุนหุ้นเหล่านี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากราคาหุ้นขนาดเล็กจะมีความผันผวนสูงกว่าที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว แต่อยากให้มองหุ้นที่มีขนาดใหญ่ พื้นฐานดีที่ยังมีเสถียรภาพและการเติบโตที่ดี ถึงจุดหนึ่งจะเข้าใจว่า ตลาดในย่านอาเซียนยังมีศักยภาพในการเติบโต พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ฐานะของโบรกเกอร์ไทยยังไม่มีปัญหา โดยจากการตรวจสอบยังไม่มีปัญหา เพราะปัจจุบันข้อกำหนดของตลาดหุ่นไทย โบรกเกอร์จะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเฉลี่ย 2 เท่า ซึ่งดีกว่าเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และยังไม่ได้รับข้อมูลถึงสถานะของโบรกเกอร์ที่ถึงขั้นต้องปิดกิจการหรือมีผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้น