ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าร่วงแรง 6.06% ตามภูมิภาค รับแรงกดดันจากการเมือง-วิกฤตการเงินโลก

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 496.67 จุด ลดลง 32.04 จุด(-6.06%) มูลค่าการซื้อขาย 8,405.78 ล้านบาท 
          การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 517.29 จุด  และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 495.26 จุด
          นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ(KGI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงลงแรง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยตลาดบ้านเราจัดอยู่ในกลุ่มที่ลงหนัก เนื่องจากรับปัจจัยลบจากสถานการณ์การเมืองที่เข้ามากดดัน นอกเหนือจากที่จะต้องรับแรงกดดันจากวิกฤตการเงินในสหรัฐอมริกา 
          โดยตลาดฯได้ตอบสนองต่อเม็ดเงินของต่างชาติที่มีการขายหุ้นบลูชิพออกมาในทุกระดับราคาหุ้น โดยวันนี้มีกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงานที่นำตลาดฯ ขาลง
          ทั้งนี้ ผลกระทบจากวิกฤตการเงินมองว่าไม่ได้ส่งถึงตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียว แต่สินทรัพย์ที่ต่างชาติถืออยู่ในไทยได้ถูกขายออกมาด้วย ส่งผลให้ค่าเงินบาทในช่วงสั้นอ่อนตัวลงสะท้อนการไหลออกของเม็ดเงินต่างชาติ
          อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายเดือนนี้บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯจะเริ่มมีการประกาศงบฯไตรมาส 3/51 มองว่าน่าจะอ่อนตัวลง ซึ่งในอนาคตมูลค่าหุ้นก็จะปรับตัวลงด้วย ดังนั้นก็คงจะต้องจับตาดูว่าสหรัฐฯมีการออกมาตรการอะไรมาช่วยเหลืออีก
          แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า คงจะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในแถบยุโรป ถ้าหากยังมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ก็จะไม่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย พร้อมให้แนวรับ 490 จุด แนวต้าน 510 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย 936.08 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท ลดลง  6.00 บาท
          PTT    มูลค่าการซื้อขาย 858.92 ล้านบาท ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
          BANPU  มูลค่าการซื้อขาย 785.53 ล้านบาท ปิดที่ 200.00 บาท ลดลง 22.00 บาท
          ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 537.50 ล้านบาท ปิดที่  77.50 บาท ลดลง  3.50 บาท
          KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 510.60 ล้านบาท ปิดที่  54.50 บาท ลดลง  3.50 บาท