APF GROUP ยืนยันเดินหน้าลงทุนในไทย เน้นนอนแบงก์-อสังหาฯ

          นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Asia Partnership Fund Group (APF Group) กล่าวถึงทิศทางการลงทุนของ APF Group ในปี 52 ว่า ยังมีนโยบายเข้าลงทุนในประเทศไทย โดยการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เหมือนเดิม ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non bank Financial institution)แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะซื้อธุรกิจอะไร และผลตอบแทนต้องเป็นที่น่าพอใจ
          ปัจจุบัน แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง มีแนวโน้มที่จะชะลอตัว ทำให้นักลงทุนหลายรายชะลอการลงทุน แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ทาง APF Group มองเป็นโอกาส ถ้าได้เป้าหมายที่เหมาะสม ได้ทีมผู้บริหารที่สามารถเข้าไปดูแลธุรกิจให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ก็จะเข้าไปลงทุน แต่ต้องสามารถมี Synergy ได้ดีกับกลุ่มบริษัทเดิมที่ได้เข้าไปลงทุนไว้ก่อนหน้าด้วยเช่นกัน
          "เกี่ยวกับนอนแบงก์ก็กำลังมอง ๆ อยู่ มีการพูดคุยกันทั้งในประเทศไทย และในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีการพูดคุยกันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วเราเน้นในโซนเอเซียเป็นหลัก เพราะปัจจุบันมีนักลงทุนที่สนับสนุนด้านเงินทุนกับทางเอพีเอฟ กรุ๊ป มาแล้วมากกว่า 10 โปรเจ็ค ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรอง 3-4 โปรเจ็ค  เรื่องเงินทุนเรามีความพร้อม
          ...ขณะนี้เราอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาต่อรองแล้วประมาณ 3-4 โปรเจ็ค บางโปรเจ็คอาจจะเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ส่วนใหญ่แล้ว ช้าหรือเร็ว จะขึ้นอยู่กับผู้ขาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทางเอพีเอฟ กรุ๊ป โดยโปรเจ็คที่จะเข้าลงทุนมีทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยต่างประเทศจะเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้คุยกันเบื้องต้นแล้วมีจำนวน 2 ราย บางดีลอาจจะจบภายในปีนี้ ส่วนในประเทศไทยจะเป็นนอนแบงก์ และ อสังหาริมทรัพย์แน่นอน" นายมิทซึจิ กล่าว
          พอร์ตการลงทุนปัจจุบันของ APF Group อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนในประเทศไทยอยู่ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเข้าลงทุนใน บริษัท เอพีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวร์รันส์ จำกัด หรือ APFII, บล.ยูไนเต็ด (US), บมจ. กรุ๊ปลีส (GL), ซีโวล่ารีสอร์ท