โบรกเกอร์หลายสำนักแนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)หรือทยอยสะสมเพื่อเก็บลงทุน เหตุผลหลักราคาหุ้นต่ำใกล้เคียงกับมูลค่าทางบัญชี(book value)ที่ 24.60 บาท ถือว่าถูกมาก แม้ว่านักวิเคราะห์จะปรับราคาเป้าหมายในปี 52 ลงจากปี 51 เพราะมองว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัว แต่ก็ยังมี upside อยู่ อย่างไรก็ดี กรณีที่ภาวะเศรษฐกิจปีหน้าอาจชะลอตัว แต่กลุ่มสื่อสารจะเป็นกลุ่มที่ถูกกระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่น
ราคาปิดช่วงเช้าอยู่ที่ 26 บาท ปรับขึ้น 1.00 บาท(+4.00%)โดยราคาลงไปต่ำสุดที่ 23.60 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อกลางปี 50
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย ปี 52(บาท/หุ้น) บล.ฟินันซ่า ซื้อ 44.75 บล.กิมเอ็ง ซื้อ 44.50 บล.สินเอเซีย ทยอยสะสม 45.84 บล.ฟิลลิป ซื้อ 44.00 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 42.00 บล.กสิกรไทย ซื้อ 38.00 บล.บัวหลวง ซื้อเก็งกำไร 35.20 บล.ไซรัส ซื้อลงทุน 35.00น.ส.จิตรา อมรธรรม ผุ้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไซรัส มองว่า DTAC ในไตรมาส 3/51 มีกำไรจากการดำเนินงาน(ไม่นับรวมรายการพิเศษ)ลดลงจากไตรมาส 2/51 ราว 12% เนื่องจากไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น และมีค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงาน ขณะที่รายได้ทรงๆ เทียบกับไตรมาส 2/51
โดยปีนี้กำไรไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งคาดว่าจะโต 41% เนื่องจากบริษัทได้ประหยัดภาษีจากการที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ ค่า IC ปีนี้รับสุทธิประมาณ 200-300 ล้านบาทจากปีที่แล้วจ่ายไปประมาณ 4 พันล้านบาท
แต่ที่เป็นห่วงคือปีหน้ามากกว่า คือรายได้ที่จะมาจากนักท่องเที่ยวที่จะใช้บริการโทรข้ามประเทศ เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวเมื่อเดือนส.ค.-ก.ย.และรายได้อีกส่วนที่จะหายไป คือ ค่า IC ซึ่งเมื่อคิดสุทธิแล้วน่าจะจ่ายให้โอเปอเรเตอร์อื่น รวมทั้งค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้นด้วย ปีหน้าคาดว่ารายได้โตเพียง 3-4% รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจแม้ว่าจะน้อยกว่ากลุ่มอื่น ส่วนกำไรปีหน้ามองว่าลดลง 6% จากปีนี้ ดังนั้น จึงปรับราคาเป้าหมายในปี 52 เหลือ 35 บาท จากปี 51 ราคาเป้าหมายอยูที่ 46 บาท
"ราคาเป้าหมายปีหน้าก็ยังสูงกว่าราคาในกระดาน และถึงแม้ตลาดรวมไม่ดียังไง ราคาตรงนี้ลงมาเท่ากับ book value ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นปรากฎการณ์ใหม่ในกลุ่มสื่อสาร ปกติจะเทรดสูงกว่า book value 2-3 เท่าขึ้นไป แต่ตอนนี้ราคาหุ้น 25 บาท และ book value สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 24.60 บาท"น.ส.จิตรา กล่าวมองว่า ราคา DTAC ที่ปรับตัวลงมามาก อาจเป็นเพราะนักลงทุนต่างประเทศเทขายออกมามาก และเมื่อเทียบความแข็งแรงทางด้านการเงินการตลาดก็สู้บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส(ADVANC)ไม่ได้ ราคาจึงลงไปค่อนข้างหนัก แต่ ณ วันนี้มันถูกมากเกินไป
ส่วนบล.ฟิลลิป มองว่า ในไตรมาส 3/51 DTAC มีรายได้จากการบริการเท่ากับ 16,414.81 ล้านบาท ลดลง 1.30%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 1.87%YoY จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2/51 อยู่ที่ 776,709 รายมาเป็น 780,425 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้า Prepaid ที่มีอัตราการใช้บริการที่ต่ำ อีกทั้งมีการใช้บริการลดลงและการโทรเข้ามาในเครือข่ายของ DTAC ลดลงด้วยรายได้ IC จึงลดลง จึงทำให้ ARPU เฉลี่ยลดลงจาก 317 บาทเป็น 300 บาท/เลขหมาย/เดือน
ส่วนกำไรสุทธิ 1,833.59 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 1,909.73 ล้านบาท) ซึ่งลดลง 10.69% จากไตรมาส 2/51 ที่มีกำไรสุทธิ 2,053 ล้านบาท (ไม่รวมเงินชดเชยจาก DPC 1,850 ล้านบาท)และทั้งปี 51 ปรับประมาณการกำไรสุทธิลงเล็กน้อยเป็น 9,963.34 ล้านบาท จากผลกระทบจากปัญหาทางการเงินของสถาบันการเงินในต่างประเทศส่งผลต่อเนื่องต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นที่ลดลง กำลังซื้อและการใช้บริการก็ลดลงด้วย
สำหรับในปี 52 ปรับราคาพื้นฐานมาที่ 44 บาท ลดลงจากเดิมที่ 55 บาท โดยมีผลกระทบจาก 2 ปัจจัยคือ กำไรสุทธิที่ปรับลดลง และการปรับเพิ่มอัตรา discount rate เพราะมีความเสี่ยงในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
ด้านบล.บัวหลวง มองว่า ในปี 52 DTAC จะมีอัตราการเติบโตชะลอตัว จึงปรับราคาเป้าหมายใหม่ลงมาอยู่ที่ 35.20 บาท จากในปี 51 อยู่ที่ 48.60 บาท จากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ และปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ปี 52 ลงจาก 10% มาอยู่ที่ 2% เพื่อสะท้อนการคาดการณ์อัตราการใช้งานที่ลดลงเนื่องจากการบริโภคในประเทศชะลอตัว รวมทั้งปรับลดประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 53-61 ลงอีก 1-3% และ 6-8% ตามลำดับ