ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 0.26 จุด นักลทุนขายลดความเสี่ยง มองตลาดสะท้อนปัจจัยบวกมากแล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 5, 2008 17:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 457.36 จุด ลดลง 0.26 จุด(-0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 19,131 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 478.68 จุด จากนั้นช่วงบ่ายดัชนีค่อยๆ อ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบ ดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 453.94 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 130 หลักทรัพย์ ลดลง 214 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 101 หลักทรัพย์

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงบ่ายเริ่มมีแรงเทขายออกมา เพราะตอนนี้ตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้วไม่ว่าแนวโน้มดอกเบี้ยโลก ภาวะเงินเฟ้อ แรงซื้อต่างชาติและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ตลาดหุ้นต่างๆ ก็มีการสะท้อนภาวะตรงนี้ แต่ในแง่ของตลาดหุ้นของสหรัฐเองมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ยังมีโอกาสเกิดแต่บ้านเราก็ต้องยอมรับว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขึ้นมาจาก 383 ถึงระดับ 478 จุด ก็เกือบ 100 จุด มีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงก็ทำให้เกิดแรงขายระยะสั้นออกมา ช่วงนี้มองว่าเป็นการขายเพื่อลดความเสี่ยงมากกว่า

แนวโน้มพรุ่งนี้ โอกาสที่จะเกิดแรงเทขายอย่างต่อเนื่องเป็นไปได้เพราะจากการที่พรรคเดโมแครตเข้ามาในแง่ของนโยบายคงจะสะท้อนแนวคิดด้านอนุรักษ์นิยม ต้องสร้างเสถียรภาพ วัฒนธรรมและสังคม จึงมองว่าในปี 4 ข้างหน้าที่ดำรงตำแหน่งในส่วนของประธานาธิบดีสหรัฐอยู่ ก็คิดว่าเศรษฐกิจโลกก็คงไม่น่าที่จะกลับมาเฟื่องฟูเหมือนสมัยรีพับรีกันที่เน้นกองทุนนิยมจึงมองว่าตอนนี้ปัญหาแรกที่จะต้องเน้นนโยบายคือเรื่องของการเติบโตภายในประเทศเป็นหลักมากกว่า

"ตรงนี้คงไม่ได้ส่งผลต่อประธานาธิบดีครั้งนี้และอาจจะเป็นผลกระทบทางอ้อมด้วย โดยเฉพาะเรื่องมาตรการกีดกันทางภาษี ก็จะส่งผลกระทบต่อไทยและในเอเชียของเราเหมือนกัน ต้องติดตามดู แต่ข่าวต่างๆ ที่ตลาดหุ้นบ้านเรามีการตอบรับตรงนี้ก็สะท้อนกับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมา 3 วันติดต่อกันแล้ว จึงมองว่าพรุ่งนี้โอกาสที่บ้านเราจะมีแรงเทขายออกมามีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง" นายวีระชัย กล่าว

ทางเทคนิคมีโอกาสที่จะปรับตัวลงมาแถวระดับ 450 และ 430 จุด แนวต้านที่ 480 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,310.78 ล้านบาท ปิดที่ 183.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,138.74 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,738.40 ล้านบาท ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท

LIVE มูลค่าการซื้อขาย 1,091.05 ล้านบาท ปิดที่ 0.47 บาท ลดลง 0.03 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 864.26 ล้านบาท ปิดที่ 53.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ