น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐาน ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นในแถบภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงกันทั่วหน้า ทั้งนี้มองว่าตลาดฯได้รับรู้ข่าวดีไปหมดแล้ว ทั้งในเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของยุโรป และธนาคารกลางของอังกฤษ รวมทั้งจบเรื่องของการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯแล้ว
ขณะที่ปัจจัยลบของตลาดฯยังมีอยู่ในเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจในต่างประเทศที่ยังน่าเป็นห่วง ซึ่งทำให้แบงก์ระวังการปล่อยกู้มากขึ้น ทำให้บริษัทฯที่คิดจะโตก็ลำบาก ส่วนปัจจัยในประเทศยังมีปัจจัยลบจากเรื่องการเมืองที่ยังต้องติดตามต่อไป
นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ทำให้ส่งผลลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วย พร้อมให้แนวรับ 440-430 จุด แนวต้าน 464-468 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(6 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,695.79 จุด ลดลง 443.48 จุด(-4.85%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 904.88 จุด ลดลง 47.89 จุด(-5.03%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,608.70 จุด ลดลง 72.94 จุด (-4.34%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2.94 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 60.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 4.53 ดอลลาร์หรือ 6.94%
- แบงก์ชี้วิกฤติการเงินสหรัฐกระทบหนัก วอนให้รัฐบาลระวังต่างชาติขายตราสารหนี้กู้เงินบาท หวั่นต้นทุนการเงินสูงขึ้น ด้าน"สมชาย" ถกผู้บริหาร 16 แบงก์จี้ปล่อยกู้ลูกหนี้มีคุณภาพ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนสมาคมแบงก์เตือนปีหน้าเผชิญปัญหาขาดสภาพคล่อง แนะรัฐผลักดันเมกะโปรเจค สร้างเครดิตบูโรระหว่างแบงก์-อคส. เพื่อตรวจสอบข้อมูลร่วมกัน หวั่นใช้สต็อกสินค้าเกษตรขอกู้ซ้ำซ้อน และมองทิศทางเดียวกัน
- ธนาคารกลางอังกฤษลดดอกเบี้ยถึง 1.50% หวังแก้ภาวะถดถอย ส่วนอีซีบี ลด 0.50% นักวิเคราะห์ชี้ “โอบามา" อาจลดความแข็งกร้าวในนโยบายการค้าที่มีต่อจีนและเอเชีย เพราะยังต้องพึ่งพาจีนในการแก้วิกฤติการเงิน
- แบงก์ชาติห่วงวิกฤติการเงินสหรัฐ ส่งผลทางอ้อมต่อเอ็นพีแอลและการขยายสินเชื่อของแบงก์ในไตรมาส 4 แนะผู้บริหารแบงก์ให้ความสำคัญการบริหารความเสี่ยง ชี้หากแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อ ธปท.ช่วยได้แค่หารือกับแบงก์เพื่อผ่อนกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรค แต่เชื่อนโยบายสนับสนุนการปล่อยกู้ผ่านเอสเอ็มอีแบงก์ช่วยดูแลธุรกิจขนาดย่อมที่ไม่ได้สินเชื่ออยู่แล้ว
- อธิบดีกรมบังคับคดี เผยในปี 2552 คาดว่าจะมีสินทรัพย์จากการถูกบังคับคดีแพ่งและล้มละลายมากขึ้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ซบเซาจากปกติที่มีหนี้เสียเข้ามาปีละ 1 แสนล้านบาท