ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายรูดต่อไปเป็น 2% แล้ว ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบเอเชีย รวมทั้งดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ปรับตัวลดลง หลังจากเกิดความกังวลว่าวิกฤติการเงินกำลังลุกลามมายังภาคธุรกิจทั่วโลก โดยบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทจดทะเบียนในหลายประเทศประกาศลดพนักงาน และในไทยล่าสุดโรงงาน GM ประกาศลดกำลังผลิตและลดพนักงานลง ประกอบกับ กองทุนต่างชาติเทขายหุ้นหลักอย่าง PTT BANPU PTTEP เพื่อนำไปจ่ายเงินคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในต่างประเทศ
เมื่อเวลา 16.11 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 411.58 จุด ลดลง 8.39 จุด (-2.00%)
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในภาคบ่ายนี้ร่วงลงกว่า 2% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย, ตลาดยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ที่ต่างปรับตัวลบกันเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้คาดว่าตลาดฯยังคงได้รับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ
โดยปัจจัยลบ น่าจะมาจาก 2 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องของการเมืองไทยที่ดูทีท่าว่าจะเริ่มกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง โดยช่วงนี้เริ่มมีการพูดถึงเกี่ยวกับการยุบพรรคกัน และเรื่องของสหรัฐฯ โดยเริ่มมองถึงงบ 7 แสนล้านเหรียญฯเป็นแค่การเข้ามาอุ้มในส่วนของภาคการเงิน แล้วส่วนของมาตรการที่จะมาอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์ยังไม่เห็น ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยก็ยังคงกดดันตลาดฯอยู่
พร้อมให้แนวรับ 383-400 จุด แนวต้าน 420 จุด
ล่าสุดเมื่อ 16.23 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 410.30 จุด ลดลง 9.67 จุด(-2.30%)