ตลาดหุ้นไทยเปิดเช้าวันนี้ร่วงหลุดแนวรับสำคัญที่ 400 จุดตามที่หลายโบรกฯ คาดไว้ จากปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศกดดันอย่างหนัก โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ร่วงแรง 5.07% ปิดหลุดระดับ 8,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ เดือน มี.ค.2546 ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังลดลงต่อเนื่องมาทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบปีนี้เข้าใกล้ระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล เป็นผลจากความกังวลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างมาก
ด้านการเมืองในประเทศส่อเค้าความรุนแรงมากขึ้น หลังเสร็จงานพระราชพิธีวันแรกก็มีเหตุระเบิดเข้าใส่เต้นท์ของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภายในทำเนียบรัฐบาล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากกว่า 20 ราย ขณะที่แรงต่อต้านการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง
ดัชนี SET เปิดตลาดที่ 399.62 จุด ลดลง 8.89 จุด (-2.18%) จากวานนี้ที่ปิดที่ระดับ 408.51 จุด
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาร่วงไปกว่า 2% มองดูแล้วยังปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ปรับตัวลงไป 4-5% เนื่องจากตลาดฯมีปัจจัยลบจากการเมืองไทยในเรื่องที่เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าเป็นไปตามที่นักลงทุนวิตกกันว่าหลังงานพระราชพิธีฯอาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น อีกทั้งยังมีเรื่องของ"ทักษิณ"โฟนอินอีก อย่างไรก็ตามให้น้ำหนักเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองไว้แค่ 20%
น้ำหนักของตลาดฯยังไปอยู่ที่ต่างประเทศมากกว่าถึง 80% เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมเวลานี้เริ่มที่จะเข้าสู่ภาวะย่ำแย่ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะทำการลดการคาดการณ์การเติบโตของสหรัฐฯลง
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 390 จุด ส่วนแนวต้านเวลานี้ไม่มองแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.12 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 399.66 จุด ลดลง 8.85 จุด (-2.17%)