LIVE เจรจาขายหุ้นเพิ่มทุนPP หลายรายช่วยต่อยอดธุรกิจ/คาดปี52รายได้โต20%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 4, 2008 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชัย เบญจพลาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเจรจาพันธมิตรหลายราย เพื่อเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท โดยคาดว่าจะทยอยได้ข้อสรุปขายหุ้นเพิ่มทุน เนื่องจากมูลค่าเพิ่มทุนมีเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะมีผู้ลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) หลายราย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่มีมติเพิ่มทุน เพื่อหาผู้ร่วมทุนแบบเฉพาะเจาะจง

"มั่นใจว่าขายได้ทั้งจำนวน เนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้มีการเจรจาหาผู้ลงทุนร่วมกับบริษัท และพร้อมจะเข้าซื้อหุ้น PP ซึ่งหากการเจรจาตกลงกันได้ ผุ้ลงทุนรายใหม่ที่เข้ามาจะมาต่อยอดธุรกิจบันเทิงของบริษัท และมั่นใจส่งผลบวกต่อบริษัทแน่นอน"นายวิชัยกล่าว หลังการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น

ในวันนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจำนวน 7.4 พันล้านหุ้นโดยแบ่งเป็น 5.1 พันล้านหุ้นเสนอขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง( PP ) และ อีกจำนวน 2.3 พันล้านหุ้น ให้รองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ์ หรือ วอร์แรนท์ ที่บริษัทอนุมัติให้ออกวอร์แรนท์ จำนวน 2.3 พันล้านหน่วย จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์โดยให้ฟรี มีราคาใช้สิทธิ 0.20 บาท

นายวิชัย เชื่อว่า ผู้ถือหุ้นเดิมจะแสดงความจำนงการใช้สิทธิทั้งจำนวน เนื่องจากเป็นการให้ฟรี และราคาใช้สิทธิเพียง 0.20 บาท ขณะที่ราคาในตลาดสูงกว่าราคาใช้สิทธิ ถือว่านักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากส่วนต่าง

ราคาหุ้น LIVE ปิดวันนี้ที่ 0.36 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวานนี้

นอกจากนี้ นายวิชัย กล่าวอย่างมั่นใจว่ารายได้ปีนี้ จะเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 473 ล้านบาท และจะมีกำไร แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/51 คาดว่าอาจจะออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากปัญหาการเมือง ประกอบกับ ภาพยนต์เรื่อง"โลงต่อตาย" ที่เข้าฉายแล้ว ทำรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.5 ล้านบาท และทำให้ขาดทุนประมาณ 5 ล้านบาท แต่ได้แบ่งผลขาดทุนกับพันธมิตรในไทย 1 ราย

อย่างไรก็ตาม ในปี 52 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตสูงกว่า 20% เนื่องจากธุรกิจบันเทิงในส่วนโทรทัศน์ที่เข้าฉายผ่านจานดาวเทียม จะเติบโตสูง ซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงราคาถูก และเชื่อว่า ผู้บริโภคจะหันมาบริโภคมากขึ้น

นอกจากนี้ บมจ. ไลฟ์มีเดีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัท ย่อยที่ถือยู่ 100% นั้นเติบโตอีก 1 เท่าตัว และจะมีกำไรต่อเนื่องใน52 และมีแผนนำเข้าจดทะเบียนใน ตลาด เอ็มเอไอ ให้เร็วที่สุด โดยจะทำเอกสารให้เสร็จในเดือนธ.ค.นี้ แต่ก็ขึ้นกับระยะเวลาการพิจารณา สำนักงาน ก.ล.ต. จะยาวนานแต่ไหน แต่บริษัทมีความพร้อมจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

นายวิชัย กล่าวยอมรับว่า พอร์ตลงทุนของบริษัทปรับตัวลดลง ตามราคาหุ้นในตลาดดหลักทรัพย์ ประกอบกับบริษัทได้มีการปรับพอร์ตลงทุน และ เข้าซื้อหุ้นบมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) อีกกว่า 3% เพราะเห็นว่าให้ผลตอบแทนที่ดี

ทั้งนี้ บริษัยังเน้นลงทุนหุ้นในธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจสื่อนอกบ้าน ผลิตรายการบันเทิง สำหรับโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก และ ธุรกิจกีฬา ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาซื้อสโมสรฟุตบอล แต่ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องการให้บริษัทได้รับผลผระโยชน์สูงสุด มากกว่าเร่งให้จบโดยเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ