ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) สวนทางกับที่พุ่งขึ้นสดใสตลอดทั้งสามวันที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ราคาโลหะที่ปรับตัวลดลงได้ฉุดรั้งหุ้นกลุ่มเหมืองให้ดิ่งลงปิดอยู่ในแดนลบ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 43.73 จุด แตะระดับ 4,286.93 จุด
"ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง" คริสเตียน บลาเจิร์ก นักวิเคราะห์จากซาโซ แบงก์ ในโคเปนเฮเกนกล่าว "เราเห็นว่าอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ยังคงอ่อนแอจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นจะปิดลบในวันนี้ แต่ระดับปิดดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงในก่อนหน้านี้ ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชของสหรัฐประกาศออกเงินกู้ฉุกเฉิน 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ และไครสเลอร์ แอลแอลซี เพื่อช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างบริษัทมิให้เผชิญกับภาวะล้มละลายที่จะสร้างความเสียหายต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ หุ้นบีพี บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อันดับสองของยุโรปทรุดตัวลง 3.7% ขณะที่หุ้นเชลล์ร่วงลง 2.2%
ด้านหุ้นกลุ่มเหมืองอย่าง หุ้นริโอ ทินโต บริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับสามของโลกทรุดตัวลง 6.5% หลังราคาทองแดงดำดิ่งลง 7.1% ในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ผลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กยังระบุถึงแนวโน้มราคาทองแดงที่อาจตกต่ำลงต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาในสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อการใช้ทองแดงเป็นวัตถุดิบในการผลิตสายไฟภายในบ้าน