MILL ชี้ขึ้นบัญชี SET 100 ดึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน-ต่างชาติมากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday December 21, 2008 11:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์(MILL) เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ได้คัดเลือกหลักทรัพย์ชุดใหม่สำหรับการคำนวณดัชนี SET100 ในช่วง 6 เดือนแรกปี 52 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.52 ซึ่งมีรายชื่อของ MILL ติดอยู่ในบัญชีรายชื่อดังกล่าวด้วยนั้นสะท้อนว่า MILL เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมหรือ Market Capitalization สูง มีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ และมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย(Free-float) ไม่น้อยกว่า 20% ซึ่งหมายถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ MILL จึงทำให้ตัดสินใจเข้ามาถือหุ้น

"ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกกับบริษัทอย่างมาก ทำให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจหุ้นของเรามากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทุนในประเทศที่มีการลงทุนในลักษณะตามดัชนีก็จะกระจายการลงทุนมาที่หุ้น MILL มากขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนทั่วๆ ไปก็จะให้ความสนใจในตัวบริษัทมากขึ้นด้วยเช่นกัน" นายสิทธิชัย กล่าว

ทั้งนี้ การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET100 ตลท.จะพิจารณาจากหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 12 เดือนสูงสุด 200 อันดับแรก และนำหลักทรัพย์ดังกล่าวมาพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งประกอบด้วย การเป็นหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 6 เดือนและเป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสม่ำเสมอ โดยพิจารณาจากสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายบนกระดานหลักเทียบกับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญทั้งตลาดในเดือนเดียวกัน รวมทั้งการพิจารณาหลักเกณฑ์อื่นๆ ตามที่กำหนด โดยใช้ข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.50 ถึงวันที่ 30 พ.ย.51

นอกจากนี้ยังพิจารณาคุณสมบัติตามเกณฑ์อื่นๆ ประกอบ ได้แก่ การมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย(Free-float) ไม่น้อยกว่า 20% และต้องไม่เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของ ตลท.ในเวลาอันใกล้ รวมทั้งไม่อยู่ในระหว่างการห้ามซื้อขายเป็นเวลานาน หรือไม่เป็นหลักทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่จะถูกห้ามการซื้อขายเป็นเวลานานอีกด้วย

นายสิทธิชัย กล่าวถึงผลการดำเนินงานในรอบปี 51 ว่าน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายซึ่งวางไว้ที่ระดับประมาณ 8,000 ล้านบาท จากปี 50 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท และเมื่อคำนวณรวมรายได้ที่มาจาก "บีอาร์พี สตีล" คาดว่าจะทำให้รายได้รวมในรอบปี 51 อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ