นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยหลัทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้น่าจะปรับฐานตามตลาดต่างประเทศ และบ้านเราดูว่ารัฐบาลจะออกมาตรการหรือจะดำเนินการอะไร เพราะเป็นช่วงของรอดูมาตรการของรัฐจะมีอะไรออกมาได้บ้าง ปรับฐานคงไม่แรงน่าจะยืนเหนือ 400 จุดได้
การเมืองในประเทศ มองว่าการที่กลุ่มนปช.เตรียมนัดชุมนุมในวันที่ 28 ธ.ค.2551 คิดว่าคงไม่มีเหตุรุนแรงอะไร คงจะทำไปตามบทบาท อาจจะเกิดเป็นช่วงๆ
"เรื่องการเมืองไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้เป็นลักษณะการยืนมากกว่า จะสร้างความเชื่อมั่นหรือไม่ตอนนี้ก็อยู่ที่รัฐบาลจะสร้างฝีมืออย่างไร" นางภรณี กล่าวขณะที่ตลาดต่างประเทศ แม้รัฐบาลสหรัฐจะยืนกรานให้ความช่วยเหลือแต่มีเงื่อนไขว่าหลังจากรับเงินช่วยเหลือไปแล้วต้องแสดงว่าสามารถที่จะดำเนินธุรกิจอยู่ได้ มีกระแสเงินสดชำระหนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ก็ลำบากเพราะยอดขายรถลดลง ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบเพราะฉะนั้นการขอความช่วยเหลือจึงยังไม่ใช่ประเด็นที่ทุกคนจะเข้ามาขอรับความช่วยเหลือได้
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(19 ธ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,579.11 จุด ลดลง 25.88 จุด(-0.30%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 887.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด(+0.29%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,564.32 จุด เพิ่มขึ้น 11.95 จุด (+0.77%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 324.45 ล้านบาทเมื่อ 19 ธ.ค.51
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 33.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.35 ดอลลาร์หรือ 6.49%
- ส.อ.ท.เปิดผลสำรวจผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจผู้ประกอบการ 302 ราย จาก 32 กลุ่มอุตสาหกรรมพบ 53% ได้รับผลกระทบหนักสุดช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ระบุกลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติก ชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ ปูนซีเมนต์ โรงแรมและบริการวิกฤติหนัก ขณะที่ 18 กลุ่มอุตสาหกรรมจ่อเลิกจ้างงานปี 2552 กว่า 11% ส.อ.ท.วางแนวทางแก้ปัญหาเตรียมจับคู่โรงงานเกลี่ยพนักงานลดเลิกจ้างประคองธุรกิจ
- รัฐบาลเตรียมงัดมาตรการภาษีแก้ปัญหาว่างงาน ชูแผนปฏิบัติการ 99 วัน เป็นนโยบายเร่งด่วน เสนอครม.พรุ่งนี้ เร่งอัดฉีดเงินลงรากหญ้าด้านเอกชนเสนอแพ็คมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 25% แลกจ้างงานเพิ่ม หนุนหักภาษีตั๋วเครื่องบิน-โรงแรมเพิ่ม “แวตรีฟันด์" ค่าเดินทาง-ที่พัก ช่วยท่องเที่ยว ดันอสังหาฯ กลไกหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แนะเปิดโซนต่างชาติซื้อคอนโดฯ 70-100%
- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)มีแผนจัดตั้งกองทุนรวมสาธารณูปโภค หรืออินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการ เมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลชุดใหม่
- ก.พลังงาน เผยกำลังรอนโยบายจากรมว.พลังงานคนใหม่ ในการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ราคาแอลพีจีในตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่องจนเกือบเท่ากับราคาแอลพีจีที่ถูกตรึงไว้หน้าโรงกลั่นที่ 320 เหรียญสหรัฐต่อตัน
- สคร.เสนอแนะแนวทางการดำเนินงานของทีโอที ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ 3จี ว่าโครงการดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากทีโอทีไม่มีฐานลูกค้า ดังนั้นทีโอทีควรประเมินความเสี่ยงให้รอบด้านว่า สามารถดำเนินการโครงการได้ โดยจะไม่เป็นภาระของรัฐบาลในอนาคต เช่น กรณีการออกใบอนุญาต 3จี ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) รวมทั้งสร้างความชัดเจนเรื่องเครือข่ายและหาพันธมิตรร่วมทำธุรกิจ
- บลจ.แนะลงทุนตราสารหนี้ระยะยาว หลังประเมินแบงก์ชาติมีโอกาสหั่นดอกเบี้ยลงอีก 0.75-1.00% เพื่อล็อกผลตอบแทนรับดอกเบี้ยขาลง พร้อมหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากตลาดเครดิตของหุ้นกู้เอกชน ขณะเดียวกันมองปีหน้าดอกเบี้ยทั่วโลกเข้าใกล้นโยบายดอกเบี้ยต่ำ 0% (Zero Policy Rate)
- "โอฬาร ไชยประวัติ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี เผยแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปี 2552 ว่า มีโอกาสที่จะได้เห็นดอกเบี้ยเงินฝากลดลงเหลือ 0% ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบบเศรษฐกิจไทยและถือเป็นการปรับลดในสัดส่วนที่มากกว่าเมื่อเทียบดอกเบี้ยเงินฝากในสมัยที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งขณะนั้นดอกเบี้ยเงินฝากยังอยู่ที่ระดับ 1-2%