ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหารSECC2รายและผู้เกี่ยวข้องกรณีทุจริตต่อทรัพย์สิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 26, 2008 15:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบการดำเนินงาน ของบมจ. เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ นางสาวนิภาพร คมกล้า นายกฤช เอกมงคลการ บริษัทแอปเปิล กรุ๊ป จำกัด และบริษัทคิว อาร์ ออโต้ คาร์ จำกัด ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษในวันนี้ (26 ธันวาคม 2551)

ตามที่ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงาน ของ SECC) ซึ่งรวมถึงสินค้าคงคลังของบริษัท ปรากฏว่า ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2551 มีรถยนต์คงเหลืออยู่ในบัญชีสินค้าคงเหลือจำนวน 501 คัน รวมมูลค่า 1,425,777,958.53 บาท แต่ปรากฏว่า รถยนต์จำนวน 493 คัน มูลค่าประมาณ 1,409 ล้านบาท ไม่สามารถระบุได้ว่าอยู่ที่ใด และน่าเชื่อว่าไม่มีอยู่จริง

การตรวจสอบดังกล่าว พบการกระทำผิดในหลายลักษณะต่างกรรมต่างวาระ ในชั้นนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหารของบริษัท SECC 2 ราย เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ในประเด็น ดังนี้

1. นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ในฐานะประธานกรรมการที่รับผิดชอบการดำเนินงานและได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของบริษัท ได้เบียดบัง ยักยอกเงินของบริษัทด้วยการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ ในการสั่งซื้อสินค้ารถยนต์ที่ไม่มีจริง เพื่อเป็นเหตุอำพรางให้ต้องจ่ายเงินจากบัญชี SECC ให้แก่ตนเอง หรือบุคคลอื่น เพื่อซื้อสินค้ารถยนต์ที่ไม่มีจริงนั้น ทำให้บริษัท SECC ได้รับความเสียหาย ประมาณการในเบื้องต้นสำหรับปี 2551 มีการจ่ายเงินเป็นค่ารถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริง จำนวน 196 คัน มูลค่าประมาณ 597.9 ล้านบาท

การกระทำข้างต้นของนายสมพงษ์ฯ เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 307 308 311 และ 313 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยมีนางสาวนิภาพร คมกล้า ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงินเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 315 ประกอบมาตรา 307 308 และ 311 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

2.นายสมพงษ์ร่วมกับนางสาวนิภาพรจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ ในการสั่งซื้อสินค้ารถยนต์ที่ไม่มีจริง และจัดให้มีการบันทึกบัญชีซื้อรถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้จำนวนรถยนต์ที่แสดงบัญชีเป็นสินค้าคงเหลือ เป็นเท็จ ไม่ตรงต่อความเป็นจริง การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ การกระทำข้างต้นมีบริษัทแอปเปิล กรุ๊ป จำกัด บริษัทคิว อาร์ ออโต้ คาร์ จำกัด และนายกฤช เอกมงคลการ ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัททั้ง 2 แห่งข้างต้น เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และให้ความสะดวกในการดำเนินการซื้อรถยนต์ จ่ายเงิน และจัดทำเอกสารเท็จ ซึ่งไม่ตรงต่อความเป็นจริง เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 315 ประกอบมาตรา 307 308 311 และ 312 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

“กรณี SECC เป็นเรื่องที่ผู้ลงทุนและลูกค้าของบริษัทได้รับผลกระทบมาก สำนักงาน ก.ล.ต. ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงเร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาผู้กระทำผิด ซึ่งในชั้นนี้พบว่ามีบุคคลและนิติบุคคลที่เข้าข่ายกระทำผิดรวม 5 ราย และยังพบว่าอาจมีผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้เข้าลักษณะกระทำผิดในเรื่องอื่นๆ อีก ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและจะเร่งดำเนินการต่อไป”นายธีระชัย กล่าว

ส่วนกรณีมีผู้ลงทุนบางรายขายหุ้น SECC แล้วไม่ได้รับชำระเงินจากบริษัทหลักทรัพย์ และอาจมีเจ้าหน้าที่การตลาดกระทำการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน สำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ