นักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะส่งท้ายปีพ.ศ.2551 ด้วยการร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีข้อมูลมากมายที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยรุนแรงและยาวนาน รวมถึงตัวเลขจ้างงาน, ยอดค้าปลีก, ยอดขายบ้าน และตัวเลขการใช้จ่ายบริโภคที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก
สก็อต ฟูลแมน นักวิเคราะห์จากบริษัท ดับเบิ้ลยูเจบี แคปิตอล กรุ๊ป กล่าวว่า "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งเหวถ้วนหน้าในปีนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงไปแล้วถึง 36.2% ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2474 ข้อมูลจ้างงานที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในครึ่งหลังของปีนี้ สวนทางกับที่เคยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปี สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐต้องใช้ "ยาแรง" ที่สุดเท่าที่เคยมีมา จึงจะสามารถเยียวยาเศรษฐกิจในระยะยาวได้ นอกจากนี้ ยอดค้าปลีและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ย่ำแย่ ยิ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้น"
มาสเตอร์การ์ด แอ็ดไวเซอร์ส เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐช่วงเทศกาลคริสต์มาสร่วงลง 4% พร้อมระบุว่าตัวเลขการใช้จ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มทำข้อมูลในปี 2545 เนื่องจากผู้บริโภคควบคุมการใช้จ่ายด้วยการเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็น ด้วยการลดการซื้อเสื้อผ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องประดับอัญมณี ซึ่งภาวะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตัวเลขผลกำไรของร้านค้าและทำให้บรรยากาศการซื้อช่วงเทศกาลวันหยุดซบเซามากที่สุดในรอบ 4 ปี
ขณะที่ช็อปเปอร์แทร็ค อาร์ซีที ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยผู้บริโภคที่มีชื่อเสียงของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสของสหรัฐร่วงลง 24% จากปีที่แล้ว แม้ห้างร้านในสหรัฐพยายามลดราคาสินค้าลงอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้จับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้วันหยุดในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ของสหรัฐปีนี้อาจเป็นฤดูกาลที่เงียบเหงาที่สุดในรอบ 40 ปี
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ทำสถิติดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 34 ปีที่ระดับ 533,000 ตำแหน่ง และร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะที่ 6.7% จากระดับ 6.5% เมื่อเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาดูมาตรการเศรษฐกิจของ บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนม.ค.ปีหน้า โดยเมื่อไม่นานมานี้โอบามายอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มทรุดตัวลงในระดับที่รุนแรงที่สุด ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น แต่เขาคำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสม โดยจะเน้นเรื่องการจ้างงาน ฟื้นฟูตลาดสินเชื่อและตลาดอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้และอยู่ในความสนใจของนักลงทุนได้แก่ วันจันทร์ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกจะเปิดเผยดัชนีอุตสาหกรรมเขตมิดเวสต์ประจำเดือนพ.ย.,วันอังคาร สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค.,วันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 1 ม.ค.ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 2 ม.ค. สำนักข่าวเอพีรายงาน