บล.ฟินันซ่า ยอมรับมีนโยบายควบรวมกิจการกับโบรกฯ อื่นแต่ตอนนี้ยังไม่สรุป

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 27, 2009 15:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวราห์ สุจริตกุล กรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันซ่า(FINANSA)และกรรมการบริหาร บมจ.ฟินันซ่า(FNS)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงกระแสข่าวที่จะเกิดการควบรวมกิจการของ บล.ฟินันซ่า กับ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ว่า บริษัทฯยอมรับว่ามีนโยบายที่จะควบรวมกิจการกับโบรกเกอร์รายอื่น ๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่มีมาตั้งแต่ต้นปี 51 และตลอดปีที่แล้วบริษัทฯก็ได้มีการพูดคุยกับโบรกเกอร์ 3-4 ราย แต่ยังไม่มีผลสรุปใด ๆ เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ

"การที่บริษัทฯมีนโยบายที่จะ merge กิจการกับโบรกเกอร์อื่น เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะไม่ดีอยู่สักพักมองหลัก ๆ ก็น่า 2 ปี ซึ่งทุกคนก็รู้กันอยู่แล้ว ปีที่ผ่านมาก็มาคุยกัน 3-4 เจ้าแล้ว อย่างเมอร์ชั่นฯ ก็รู้จักและมีการพูดคุยกัน เพราะคนวงการโบรกฯยังไงก็รู้จักกันหมด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ถ้าได้ข้อสรุปก็ต้องนำเรื่องให้ผู้บริหารพิจารณาก่อนถึงจะทำได้" นายวราห์ กล่าว

ทั้งนี้ การควบรวมกิจการนั้นเมื่อสำเร็จแล้วจะเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย และมีแนวทางการควบรวมกิจการกันในหลายรูปแบบ โดยอาจเป็นทางเลือกที่จะ merge ในบาง Function อย่างเช่นรวมกิจการกันเฉพาะส่วนงาน Back Office เท่านั้น ซึ่งก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องควบรวมกันทั้งหมด ซึ่งบริษัทฯก็คาดหวังผลที่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ เพิ่มรายได้ และช่วยลดค่าใช้จ่าย

นายวราห์ กล่าวว่า ในปี 52 บริษัทตั้งเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจหลักทรัพย์ไว้ที่ 2% ซึ่งในปีที่ผ่านมา 51 บริษัทฯก็มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ระหว่าง 1.7-2.0% โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าอย่างครบวรจรมากขึ้น

"ปีนี้ผมต้องการที่จะให้ cost ลดลง ต้องการจะประหยัดให้มากขึ้น เป้าหมายมาร์เก็ตแชร์ของปีนี้ตั้งไว้ที่ 2% ซึ่งปีที่ผ่านมา(51)มาร์เก็ตแชร์ของบริษัทฯก็วิ่งอยู่ระหว่าง 1.7-2% แต่ถ้าทำดีก็น่าจะได้มาร์เก็ตแชร์ประมาณ 2.2-2.3%"กรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันซ่า กล่าว

นายวราห์ กล่าวอีกว่า ปลายปีที่ผ่านมา(51)บริษัทฯได้เริ่มทำ TFEX แล้ว ส่วน Gold Futures ที่กำลังจะเปิดให้เทรดนั้น บริษัทฯยังไม่มีไลเซ่นส์ ดังนั้น คงจะต้องร่วมทำธุรกิจนี้กับคนอื่นก่อน อย่างพวกกลุ่มผู้ค้าทองคำ ซึ่งมองว่ากลุ่มดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญโดยตรงอยู่แล้ว จึงน่าสนใจที่จะไปร่วมกันทำธุรกิจ

นอกจากนี้ บริษัทฯก็ยังมีการหาพันธมิตรร่วมค้าจากภายนอกประเทศด้วย อย่างที่มีอยู่ในปัจจุบันก็มีที่เวียดนามและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการจับมือร่วมกันทำธุรกิจ เพราะตลาดไทยไม่ได้ใหญ่ การที่บริษัทฯจะออกไปทำธุรกิจนอกประเทศก็ถือได้ว่าเป็นการแสวงหาโอกาสที่ดี และบริษัทฯก็สามารถที่จะสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ