นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2 ตลาดหุ้นไทยน่าจะกลับมาดีขึ้นจากมาตรการภาครัฐที่จะออกมา ซึ่งจะเห็นผลในปลายไตรมาส 4/52 ถึงต้นไตรมาส 1/53 โดยปกติตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นเร็วกว่าสภาพเศรษฐกิจ 6-9 เดือนและปีนี้คาดว่าจะได้เห็นดัชนีที่ระดับ 600 จุดได้ และมองว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน EPS ที่ระดับ 0.5-1.5%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนม.ค.ตลาดหุ้นไทยก็มี January Effect แต่การปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนมักมีการขายทำกำไรในระยะสั้นเนื่องจากปัจจัยความไม่เชื่อมั่นและความไม่แน่นอนยังคงมีในตลาดหุ้นไทย
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจหลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการต่างๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่าไตรมาส 2/52 จะกลับมาเป็นบวกที่ 0.5-1.5% แม้ว่าช่วงไตรมาส 4/51 เศรษฐกิจไทยติดลบและในช่วงครึ่งปีแรกการเติบโตก็น่าจะเป็นแบบชะลอตัว
ส่วนภาคเอกชนน่าจะเริ่มมีการลงทุนเนื่องจากเริ่มมีความหวังมากขึ้น ประกอบกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะใช้มาตรการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการเติบโต
ด้านตลาดตราสารหนี้มองว่าปีนี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีอัตราดอกเบี้ยสูงโดยเฉพาะภาครัฐน่าจะออกพันธบัตรระยะยาวเพื่อระดมทุนในการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค ซึ่งหากออกเป็นพันธบัตรระยะยาวน่าจะให้ผลตอบแทนสูงเป็นพิเศษเพื่อจูงใจนักลงทุนให้ซื้อเพราะจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก