ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการบริษัทญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม นิกเกอิรูดลงไม่มากนักเนื่องจากตลาดขานรับข่าวที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเริ่มเข้าซื้อหุ้นในสถาบันการเงินเพื่อกระตุ้นสภาพคล่อง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 48.47 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 7,825.51 จุด
ยูกิโอะ ทากาฮาชิ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชินโกะ กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวคึกคักขึ้นจากข่าวที่ว่าบีโอเจจะเริ่มเข้าซื้อหุ้นในสถาบันการเงินเป็นวงเงินรวม 1 ล้านล้านเยน หรือ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นสภาพคล่อง หลังจากสถาบันการเงินเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นที่ร่วงลงทั่วโลก โดยการเข้าซื้อหุ้นจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเม.ย.ปี 2553
บีโอเจกล่าวในแถลงการณ์ว่า "การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะพยุงสถานะของสถาบันการเงินและลดความเสี่ยง อีกทั้งยังเป็นการสร้างเสถียรภาพในระบบการเงิน อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้มีมูลค่าน้อยกว่าเมื่อครั้งที่บีโอเจเข้าแทรกแซงภาคการธนาคารในปี 2545-2547 ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านเยน ซึ่งต่อมาในปี 2550 บีโอเจก็เริ่มขายหุ้นออกมา"
จนกระทั่งเดือนต.ค.ปี 2551 บีโอเจเริ่มยุติการขายหุ้น หลังจากวาณิชธนกิจเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย ซึ่งได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลง โดยดัชนีนิกเกอิดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 42% ในปี 2551 และร่วงลงต่อเนื่องอีก 11% ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการเอกชน โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 64.03 จุด หรือ 0.80% แตะที่ 7,936.83 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ารายได้ส่วนบุคคลลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังลดลง 0.4% ในเดือนพ.ย.และการใช้จ่ายส่วนบุคคลลดลง 1.0% ในเดือนธ.ค. หลังลดลง 0.8% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มยาง กลุ่มแก๊ส และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มไอทีและกลุ่มสื่อสาร ร่วงลง แต่หุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือและกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก พุ่งขึ้น