ศาสตราจารย์ นูเรียล รูบินี แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กซึ่งเคยคาดการณ์ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์การเงินโลก คาดว่า ดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะร่วงลงแตะระดับ 600 จุดหรือต่ำกว่านั้นในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรงขึ้น
"ผมคาดว่าดัชนี S&P 500 จะดิ่งลงไปแตะระดับ 600 หรือต่ำกว่า หรือหากสถานการณ์เศรษฐกิจย่ำแย่กว่านี้ เราก็อาจจะเห็น S&P 500 ถลำลึกลงไปแตะระดับ 500 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากผลประกอบการของบริษัทที่นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในดัชนี S&P 500 หดตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรง" ศาสตราจารย์รูบินีกล่าว
นับตั้งแต่ช่วงต้นปีพ.ศ.2552 ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 25% แตะระดับ 676.53 จุด ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีที่แย่ที่สุด หลังจากดัชนีดิ่งลง 38% ในปีพ.ศ.2551 ซึ่งเป็นสถิติที่ดิ่งลงรายปีหนักสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2480 ทั้งนี้ นับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเข้าคุกคามสหรัฐตั้งแต่เดือนธ.ค.2550 ธนาคารกลางสหรัฐได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ลงเหลือเพียง 0-0.25% และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์
"แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามงัดยุทธศาสตร์ทั้งในด้านการเงินและการคลังมาใช้ แต่สหรัฐยังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจนถึงปลายปีนี้หรืออาจบานปลายจนถึงปีหน้า" รูบินีกล่าว
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์รูบินีกล่าวว่า ตลาดหุ้นกำลังตกอยู่ใน "ความเสี่ยงสูง" และอาจดิ่งลงต่อเนื่อง เพราะถูกกดันจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของภาคเอกชและภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย พร้อมกับคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่สอดคล้องกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์รูบินีซึ่งเป็นที่รู้จักในฉายา "Dr.Doom" เนื่องจากได้พยากรณ์ไว้ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกและเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขั้นจริงในเวลาต่อมา กล่าวว่า "โลกยังพอจะมีข่าวดีอยู่บ้าง เนื่องจากกลุ่มประเทศ G7 ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ธนาคารใหญ่ๆล้ม" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน