ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 421.03 จุด ลดลง 3.76 จุด(-0.89%) มูลค่าการซื้อขาย 3,018.56 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 424.98 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 420.62 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง โดยมีแรงขายนำจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากรับผลลบจากโอเปกมีมติให้คงกำลังการผลิต ซึ่งผิดไปจากที่คาดการณ์ไว้ว่าโอเปกจะลดกำลังการผลิต และกลุ่มพลังงานก็มีน้ำหนักต่อตลาดบ้านเรามากถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักของตลาดทั้งหมด
อย่างไรก็ดี คงจะต้องติดตามดูราคาน้ำมันดิบในคืนนี้ด้วยว่าจะมีความเคลื่อนไหวเป็นอย่างไร แต่เวลานี้แนวโน้มของกลุ่มพลังงานคนมองว่ายังไม่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่อาจจะมีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรกันได้บ้าง
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็มีการแกว่งตัวทั้งบวก-ลบ ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในของแต่ละประเทศ โดยขณะนี้คนรอดูความช่วยเหลือในสถาบันการเงินของแต่ละประเทศอยู่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งก็ทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มแบงก์กันในแต่ละประเทศ อย่างตลาดญี่ปุ่น และฮ่องกง เช้านี้ปรับตัวขึ้น จากการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มแบงก์
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเรามีวอลุ่มเทรดน้อย คงเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกงวดเดือนกุมภาพันธ์ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้(20 มี.ค.)ตลาดฯคาดการณ์ว่าจะออกมาไม่ดี จึงทำให้คนยังไม่กล้าเข้ามาซื้อหุ้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะมีความเคลื่อนไหวไม่แตกต่างจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 420, 417 จุด แนวต้าน 424 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 489.64 ล้านบาท ปิดที่ 94.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 318.07 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 311.37 ล้านบาท ปิดที่ 43.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 212.13 ล้านบาท ปิดที่ 24.70 บาท ลดลง 0.30 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 134.38 ล้านบาท ปิดที่ 53.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง