TIES หวังผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อนหลังได้เงินเพิ่มทุนเสริมสภาพคล่องธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 2, 2009 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอัศวิน ชินกำธรวงศ์ ประธานกรรมการ บมจ.ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม(TIES)ตั้งความหวังผลประกอบการปี 52 จะดีขึ้นกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 1,300 ล้านบาทแต่มีผลขาดทุน 58 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้มีเงินจากการเพิ่มทุนขายให้กับ PP เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องและอีกส่วนจากเงินกู้ รวมทั้งมีอีกหลายงานที่อยู่ระหว่างยื่นประมูล ขณะที่ backlog ในมือมีอยู่ราว 700-800 ล้านบาท

"ยอมรับว่ายากที่จะคาดเดาได้ แต่ก็ยังหวังว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะเลวร้ายลงไปอีกยาวเท่าไหร่ ขณะนี้ผู้บริหารพยายามทำให้ดีที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ ให้บริษัทฝ่าฟันและอยู่รอดเพื่อรอจังหวะเศรษฐกิจฟื้นได้ และเราสามารถฟื้นฟูบริษัทให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้ โดยกลยุทธ์ คือ หางานเข้ามาให้ได้มากที่สุด"นายอัศวิน กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

นายอัศวิน กล่าวว่า บริษัทจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)ประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนั้นจะเป็นการกู้สถาบันการเงินส่วนหนึ่ง เพราะยังมีธนาคารที่พร้อมให้การสนับสนุน ส่วนที่เหลือคงมาจากการรับรู้รายได้งานในมือ(backlog)ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 700-800 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะรับรู้ในปีนี้และมีบางส่วนทยอยรับรู้ฯ ในปี 53

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทรับเหมาก่อสร้างประสบปัญหามากมาย โดยเฉพาะราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ประสบกับความยากลำบาก อย่างกรณีที่รับงานไว้ในช่วงไตรมาส 3/50 เกือบ 2 พันล้านบาท ขณะที่ราคาเหล็กอยู่ในระดับ 16-17 บาท/กก. แต่ภายในไม่ถึงครึ่งปี ราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้นไปถึง 30 กว่า/ก.ก. ถึง 40 กว่า/ก.ก.

"นี่คือประเด็นที่ทำให้เราขาดทุนมาก ทำให้เงินทุนหมุนเวียนที่มีอยู่ลดลงไปเรื่อยๆ พอถึงจุดนึงเราก็ต้องหาทางเพิ่มเงินทุน แต่อย่างที่รู้เวลานี้การเพิ่มทุนก็ลำบาก ผมก็ไปปรึกษาผู้ใหญ่หลายท่านที่ผมนับถือ เพื่อนฝูง ว่าเราต้องการเงินเพื่อมาเพิ่มทุน และขณะนี้เรามีงานหลายงานที่อยู่ในขั้นตอนการประมูล และเราก็โชคดีที่มีคนแนะนำนักลงทุนกลุ่มนี้เข้ามา"นายอัศวิน กล่าว

กลยุทธที่บริษัทนำมาใช้ในขณะนี้ คือการเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มให้มากที่สุด โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานระดับพันล้านบาท เป็นงานก่อสร้างโกดัง และระบบโลจิสติกในต่างจังหวัด ประมาณ 3-4 โครงการ เป็นงานของเอกชนทั้งหมด จึงจำเป็นต้องหาเงินทุนไว้ใช้ในการทำงาน

"งานที่เราเข้าประมูลเป็นงานอาคารกึ่งโกดัง เพราะขณะนี้เป็นยุคของโลจิสติก ส่วนงานประเภทคอนโดฯ ที่พักอาศัยเราไม่รับเลย"นายอัศวิน กล่าว

นายอัศวิน ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านายฉาย บุนนาค นักลงทุนรายใหญ่ส่งเครือข่ายเข้ามาถือหุ้นใน TIES ด้วยการเข้าซื้อหุ้น PP ว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อหุ้น PP ทั้ง 6 รายมีผู้แนะนำมา โดยประกอบด้วย นายธาดา จีรัญพงษ์, นายอำนาจ ตันกุริมาน, นางพรพรรณ เที่ยงพิมล, นายปกรณ์ มงคลธาดา, นางวทันยา วงษ์โอภาสี และนางอังคนา มาสะกี

ส่วนอนาคตบุคคลทั้ง 6 คนจะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทด้วยหรือไม่นั้น นายอัศวิน กล่าวว่า พร้อมจะเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ส่งตัวแทนเข้ามาร่วมในบอร์ดหากต้องการ

"เรื่องบอร์ดเนี่ย เราจะสรรหากรรมการที่มีประสบการณ์ความสามารถที่จะช่วยบริษัท ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คนภายนอกเข้ามาเป็นตัวแทน อาจจะเป็นใน 6 ท่านหรือจากข้างนอกด้วยก็ได้ เพราะว่ายังมีตำแหน่งกรรมการอิสระว่างอยู่"นายอัศวิน กล่าว

นายอัศวิน กล่าวต่อว่า การเพิ่มทุนยังช่วยให้แนวโน้มฟรีโฟลตของบริษัทน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันที่ TIES มีฟรีโฟลทอยู่ที่ 35.58%

"ตอนนี้โครงสร้างฟรีโฟลทเราดูดีขึ้น หลังจากใน 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทไม่มีฟรีโฟลทเลย เพราะกองทุนถือเยอะ และหลายคนที่ถือก็เก็บเอาไว้ แต่คิดว่าถ้ามีหุ้นใหม่เพิ่มเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง น่าจะทำให้สภาพคล่องของหุ้นดีขึ้น คงจะขึ้นมาจนได้มาตรฐาน"นายอัศวิน กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ