ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 63.02 จุดหลังผลผลิตอุตสาหกรรมอังกฤษทรุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 8, 2009 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมดิ่งลงหนักสุดในรอบเกือบ 40 ปี และหลังจากนักวิเคราะห์ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มธนาคารในอังกฤษ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 63.02 จุด แตะที่ 3,930.52 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,909.88-4,039.52 จุด

เจมส์ เฟอร์กูสัน นักวิเคราะห์จากบริษัท Pali International ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงหลังจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษทรุดตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 12 เดือน โดยผลผลิตอ่อนตัว 0.9%ในเดือนก.พ. จากเดือนม.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตของอังกฤษย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกฉุดดีมานด์สินค้าประเภทต่างๆ ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงเซรามิค หดตัวลงด้วย

ขณะที่สมาคมหอการค้าอังกฤษรายงานว่า ยอดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในไตรมาสแรก ซึ่งอาจทำให้ที่ประชุมธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่ยอดขายรถในอังกฤษเดือนมี.ค.ร่วงลง 31% โดยยอดขายรถเปอโยต์ร่วงลงมากที่สุดในบรราดารถที่ขายดี 5 อันดับในอังกฤษ ส่วนยอดขายรถหรูหราราคาแพงร่วงลง 40%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงรุนแรงสุดหลังจากนักวิเคราะห์หลายรายปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นธนาคารลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ปิดร่วง 8.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ "underperform " จากเดิมที่ระดับ "neutral"

ขณะหุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 1.9% หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ปิดร่วง 7.5% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 10.4% หลังจากรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ประกาศปลดพนักงานราว 9,000 ตำแหน่งในช่วงสองปีข้างหน้า

ส่วนหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดร่วงลง 6.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ "sell" จากเดิมที่ระดับ "neutral"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ