นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า จากที่ครม.เบรกลงทุนในมาบตาพุด ว่า มีผลกระทบต่อกลุ่มนิคมฯแน่นอน ซึ่งกลุ่มนิคมฯช่วงนี้วังเวงอยู่แล้ว ต่อให้มีเรื่องใหม่เข้ามาก็ไม่ได้มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่านั้น แนะนำหลีกเลี่ยงนานแล้วเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอลง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment — FDI) ที่จะเพิ่มขึ้นยกเว้นบางโรงงานของญี่ปุ่นแถบจะไม่มีใครลงทุนเพิ่มเลยเพราะฉะนั้นกลุ่มนี้คงจะไม่ไปไหน ยิ่งเจอเรื่องนี้เข้าไปอีก ยิ่งไม่มี story ยังคงให้หลีกเลี่ยง
ด้าน บล.ยูไนเต็ด ระบุ นิคมอุตสาหกรรม (industrial property) ยังไม่แนะนำ เพราะตัวเลขของ BOI ใน 1Q52 เท่ากับ 1.22 แสนล้านบาท ทรงตัวเทียบกับปีก่อน แต่โครงการจาก ตปท. ลดลงถึง —71.3% ,บริษัทญี่ปุ่นมีนโยบายที่ชะลอการลงทุนทั้งในประเทศและทั่วโลก ,กลุ่มลูกค้าหลักเป็นอุตสาหกรรมส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจของโลกค่อนข้างรุนแรง (consumer discretionary) ได้แก่ ยานยนต์และอิเล็คทรอนิกส์ และยอดขายที่ดิน 1Q52 ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย AMATA,ROJNA และ HEMRAJ มียอดขายแค่ 50, 10 และ 6 ไร่ ตามลำดับ จากปีที่แล้วเคยขายไม่ต่ำกว่า 100~300 ไร่/ไตรมาส
นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนสัมพันธ์และวางแผน บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน(HEMRAJ) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ถึงข่าวที่ครม.สั่งเบรกโครงการใหม่ในเขตมาบตาพุดหยุดชั่วคราว ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อบริษัท แต่คงไม่มากนัก ซึ่งตอนนี้ขอรอความชัดเจนก่อน
"ถ้าจะบอกว่าไม่กระทบเลยคงจะไม่ใช่ แต่ขอให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน" นายเผ่าพิทยา กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.22 น.
HEMRAJ อยู่ที่ 0.61 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AMATA บวก 2.33% อยู่ที่ 4.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
ROJNA บวก 1.29% อยู่ที่ 4.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท