ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นแบงค์ ถ่วงฟุตซี่ปิดลบ 29.17 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 3, 2009 07:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีรายงานว่าบริษัทในรัฐอาบู ดาบี ของสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ขายหุ้นจำนวนมากในธนาคารบาร์เคลย์ส อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนจากยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ ซึ่งทำให้ดัชนี FTSE 100 ปิดลบไม่มากนัก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 29.17 จุด แตะที่ 4,477.02 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,435.92-4,506.19 จุด

เมนัส แครนนีย์ นักวิเคราะห์จาก MF Global Spreads ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ปิโตรเลียม อินเวสท์เมนท์ ในรัฐบาลอาบู ดาบี ขายหุ้นกว่า 11% ในธนาคารบาร์เคลย์ส ซึ่งทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นๆอาจขายหุ้นกลุ่มธนาคารเพื่อทำกำไร หลังจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวทะยานขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นบาร์เคลย์สปิดร่วง 13.5% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดลบ 0.6% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ปิดร่วงลง 2.5% หุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดลบ 4.8% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดร่วง 5.2%

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร โดยหุ้นแอสตราเซเนกาปิดลบ 2.5% และหุ้นแกลกโซ สมิธไคลน์ปิดลบ 1.1%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.7% แตะระดับ 90.3 จุด จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 84.6 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นรายเดือนมากที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ