ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) ขานรับธนาคารกลางอังกฤษที่ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและเข้าซื้อสินทรัพย์กว่าแสนล้านปอนด์เพื่อเพิ่มเม็ดเงินในระบบ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังจากราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นเหนือความคาดหมาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 3.52 จุด แตะที่ 4,386.94 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,359.66-4,436.25 จุด
เดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท IG Index ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนขานรับธนาคารกลางอังกฤษที่ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอังกฤษจะเริ่มคลี่คลายลง นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังคงนโยบายซื้อสินทรัพย์คืนมูลค่า 1.25 แสนล้านปอนด์เพื่อเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้แรงหนุนจากการที่ฮาลิแฟกซ์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.6% จากระดับเดือนเม.ย. มาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 158,565 ปอนด์ หรือ 260,000 ดอลลาร์ นับเป็นสถิติที่เกือบจะสูงสุดในรอบ 9 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าราคาบ้านจะร่วงลง 13.7% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดของอังกฤษได้ผ่านพ้นไปแล้ว
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เคลื่อนไหวเข้าใกล้ระดับ 69 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นบีพีปิดบวก 1.0% หุ้นรอยัล ดัทช์ ปิดพุ่ง 1.3% แต่หุ้นกลุ่มเหมืองดิ่งลงสวนทางกับราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 2.5% หุ้นเอ็กซ์สตราตา ปิดลบ 3.2% หุ้นลอนมินปิดร่วง 4.8% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดดิ่งลง 6.6% ส่วนหุ้นริโอ ตินโตปิดร่วง 6.6% จากข่าวที่ว่า ริโอ ตินโตอาจ ออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อแก้ไขปัญหาภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นธนาคาร HSBC ปิดบวก 0.2% หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดพุ่ง 2.2% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดพุ่ง 2.9% หุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดบวก 3.0% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดบวก 3.1%