ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 591.90 จุด เพิ่มขึ้น 2.92 จุด(+0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 9,141.16 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบ-บวก โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 592.44 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 581.31 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบจำกัดทั้งในขาขึ้น-ขาลง โดยมีประเด็นสำคัญในเรื่องที่ตลาดฯยังไม่ชัดเจนในผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ซึ่งกว่าที่ผลประชุมจะออกก็ต้องเป็นวันพฤหัสเช้า และไม่ว่าผลประชุมออกมาเป็นบวกหรือลบ ก็จะมีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องติดตามอีกเรื่องเป็นเรื่องของการประมูลพันธบัตรในสหรัฐฯจำนวน 1.04 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน และจะผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนก็ยังไม่ทำอะไรจนกว่าจะมีความชัดเจน ส่วนปัจจัยทางการเมืองในประเทศก็เริ่มที่จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ช่วงต้นสัปดาห์นี้คงจะใช้ประเด็นเรื่องกลุ่มสถาบันการเงินที่ลงมาแรง และเม็ดเงินจากพ.ร.ก. 4 แสนล้านบาทมากกว่า ที่จะช่วยหนุนตลาดฯให้ปรับตัวขึ้น ซึ่งเช้านี้ตลาดฯก็ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่เป็นตัวนำดัชนีฯ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะรีบาวน์
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งในกรอบ ตามทิศทางเทคนิค โดยมีแนวต้านที่ 593, 598 จุด แนวรับ 580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,486.59 ล้านบาท ปิดที่ 233.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 690.07 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 616.79 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 444.23 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 438.92 ล้านบาท ปิดที่ 21.70 บาท ลดลง 0.30 บาท