ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 562.68 จุด ลดลง 19.61 จุด(-3.37%) มูลค่าการซื้อขาย 9,566.18 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 567.43 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 561.05 จุด
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วง ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งตลาดบ้านเราดูเหมือนจะลงหนักกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค ยกเว้นตลาดเวียดนามที่จะร่วงแรงกว่าตลาดบ้านเรา
ทั้งนี้เป็นผลจากนักลงทุนในทุกตลาดฯต่างมองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯจากที่เคยมองว่าจะฟื้นตัวเร็ว มาถึงตอนนี้ไม่ได้มีอะไรชี้ชัดไปทางนั้น จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมัน ออกมาแล้วย้ายเม็ดเงินลงทุนไปอยู่ที่ตลาดพันธบัตรแทน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งก็ทำให้ค่าเงินเยน และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราเริ่มที่จะให้น้ำหนักปัจจัยการเมืองในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นประเด็นทางการเมืองคงจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย ประกอบกับทางสหรัฐฯเองก็จะมีมาตรการดูแลสถาบันการเงินที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งจะนำเรื่องเข้าสู่รัฐสภา ทำให้มองว่าการเดินหน้าของหุ้นอาจจะลำบาก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้ และก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อก็ได้ ซึ่งสภาพตลาดฯเวลานี้ได้เปลี่ยนทิศทางไป โดยเช้านี้ดัชนีฯก็ได้หลุดแนวรับ 575 จุดลงไป และมีทีท่าว่าจะปรับตัวลงต่อได้อีก ซึ่งขณะนี้มองแนวรับไว้ที่ 560, 540 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 582, 580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,257.29 ล้านบาท ปิดที่ 219.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,122.14 ล้านบาท ปิดที่ 121.50 บาท ลดลง 7.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 763.16 ล้านบาท ปิดที่ 311.00 บาท ลดลง 17.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 710.40 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 471.11 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 2.00 บาท