ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) และปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันแล้ว หลังนักลงทุนเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะยังไม่สิ้นสุดลงในเร็ววันนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 31.49 จุด หรือ 0.8% แตะที่ 4,127.17 จุด ส่งผลให้ลดลงรวม 2.6% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ร่วงลงกว่า 8.4% นับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ด้านปริมาณการซื้อขายก็ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.
หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พีแอลซี และ บีพี พีแอลซี ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป ปรับตัวลดลงหลังราคาน้ำมันรายสัปดาห์ร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ต้นปี ส่วนหุ้นริโอ ทินโต กรุ๊ป ก็ปรับลดลงตามราคาเหล็ก
"นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลดลง" แองกัส แคมป์เบลล์ หัวหน้าฝ่ายขายจากบริษัท แคปิตอล สเปรดส์ ในลอนดอน กล่าว
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่ลดลงจากระดับ 70.8 จุดในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 64.6 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในที่สุด