โบรกเกอร์หนุน "ซื้อ/เก็งกำไร"หุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)มองผลกำไรไตรมาส 2/52 เริ่มฟื้นตัวจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับสูงขึ้น แต่มีความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวในไตรมาส 3/52 อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 70 เหรียญ/บาร์เรลในปีหน้า ประกอบกับ แหล่งผลิต 3 แหล่งใหญ่จะผลิตได้เต็มกำลัง ดังนั้น ปี 53 จะเป็นปีที่มีปริมาณการขายมากเป็นประวัติการณ์ เหมาะลงทุนในระยะกลางถึงยาว แต่ช่วงระยะสั้นชะลอก่อน รอดูภาพรวมตลาดหุ้น
เช้านี้ ราคาหุ้น PTTEP เคลื่อนไหวที่ 127 บาท บวก 1.00 บาท (+0.79%) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นโดยรวม
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.กสิกรไทย ซื้อ 194 บล.บัวหลวง ซื้อ 165 บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 161 บล.ไอร่า เทรดดิ้ง 158 บล.กิมเอ็ง เก็งกำไร 148 บล.เคจีไอ ซื้อ 147น.ส.ธนพร วิศรุตพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย มองว่า หุ้น PTTEP น่าลงทุนในระยะกลางถึงระยะกลาง โดยราคาพื้นฐานที่ให้ไว้ถึง 194 บาทเป็นราคาเป้าหมายในกลางปี 53 โดยประเมินว่าราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงนั้นจะปรับขึ้นไปถึง 75 เหรียญ/บาร์เรล
ประกอบกับ ในปีหน้าแหล่งผลิตขนาดใหญ่ 3 แหล่งผลิตเต็มกำลัง ได้แก่ แหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลีย, แหล่งเจดีเอ โดยทั้งสองแหล่งจะเริ่มผลิตในไตรมาส 4/52 และแหล่งอาทิตย์เหนือ ซึ่งเริ่มผลิตเต็มที่ในเดือนก.ค.นี้ ส่งผลให้ยอดปริมาณขายในปีหน้าน่าจะสูงเป็นประวัติการณ์
ในช่วงระยะสั้นราคาน้ำมันยังอ่อนตัวอยู่ในช่วงฤดูกาลที่ใช้น้ำมันน้อย ก็ส่งผลไม่ดีต่อหุ้น PTTEP แต่คาดว่าในไตรมาส 4/52 ราคาน้ำมันจะดีขึ้นจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
"ต้องยอมรับว่า เราชอบ ปตท.สผ.แต่ในระยะสั้นหุ้น ปตท.น่าจะเหมาะลงทุนมากกว่า น่าจะ save กว่า แต่ถ้าราคาลงไปต่ำก็น่าเข้าไปซื้อ ปตท.สผ."น.ส.ธนพร กล่าวขณะที่ น.ส.ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง มองว่า หุ้น PTTEP ยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยมองว่าภาพรวมน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นได้
แต่จังหวะนี้ไม่ใช่ช่วงเข้าซื้อ เพราะเห็นว่าตลาดภาพรวมรีบาวน์ช่วงสั้น ๆ มากกว่า ระยะสั้นจึงยังไม่ควรเข้าไป ควรรอดูทิศทางตลาดรวม ดังนั้น ช่วงที่ตลาดรีบาวน์จะเป็นจังหวะขายทำกำไรมากกว่า ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้น ควรรอให้ราคาอ่อนตัวก่อน มองว่าตลาดยังมีการปรับฐานอยู่ยังไม่จบ
"เรามองว่า(ขณะนี้)ไม่น่าจะใช่จังหวะ(เข้าซื้อ) เพราะดูลักษณะตลาดการรีบาวน์แค่ช่วงสั้นๆมากกว่า พราะฉะนั้นการซื้อข่วงนี้จึงไม่เหมาะ เราคงดูตจลาดก่อน เรามองว่าตลาดยังปรับฐานไม่เรียบร้อย ถ้ารีบาวน์ก้ให้ระมัดระวังมากกว่า ยังไงตลาดรวมเรามองที่แนวรับที่ 550 จุด คงไม่เปลี่ยนมุมมอง"น.ส ปองรัตน์ กล่าวด้านบทวิเคราะห์ของบล.กรุงศรีอยุธยา คาด กำไรสุทธิของ PTTEP ในไตรมาส 2/52 จะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 24% เท่ากับ 7,143 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นตลอดทั้งไตรมาส และได้ค่าตัดจำหน่ายหลุมแห้งคาดว่าจะลดลงจาก 1,576 ล้านบาท เหลือเพียง 868 ล้านบาท จากแหล่งในประเทศอียิปต์และโอมาน
ส่วนระยะยาว คาดว่าผลกำไรสุทธิ ปี 53 จะเติบโตกว่า 66% จากปีก่อน เป็น 38,089 ล้านบาท ตามแหล่งผลิตปิโตรเลียมที่ทยอยเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 53 ได้แก่ 1)โครงการอาทิตย์เหนือ (ถือหุ้น 100%) ปริมาณขายก๊าซธรรมชาติ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และคอนเดนเสท 1,500 บาร์เรล/วัน คาดว่าจะผลิตเต็มที่ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2)โครงการ MTJDA (ถือหุ้น 50%) กำลังการผลิตก๊าซ 270 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เริ่มผลิต ในไตรมาส 4/52
และ 3) โครงการ Montara (ถือหุ้น 100%) กำลังการผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสท 35,000 บาร์เรลต่อวัน เริ่มผลิต ในไตรมาส 4/52 จะส่งเสริมให้ผลประกอบการปี 53 เติบโตก้าวกระโดด
รวมถึงคาดว่าราคาน้ำมันดิบในระยะยาวมีความเสี่ยงขาลงจำกัดจากสมมติฐานเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวในช่วงปลายปี 52 และความเห็นที่เป็นบวกของ OPEC ต่อระดับราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน