นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวถึงกระแสข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)จะพิจารณาแต่งตั้งตัวแทนเข้ามาเป็นประธานบอร์ด ตลท.คนใหม่ แทนนายปกรณ์ที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งว่า เป็นเรื่องดีที่ไม่มีการต่อวาระ เพราะทำให้ตนเองมีเวลาทำงานในด้านอื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบมากขึ้น
นอกจากนั้น นายปกรณ์ ยังเห็นว่านายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะได้รับการแต่งตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ตลท.แทน เป็นบุคคลที่ความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ด้านตลาดทุนเป็นอย่างดี และยังเคยเป็นคณะกรรมการ ก.ล.ต.ในช่วงปี 40
นายปกรณ์ ยังกล่าวว่า หากหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ตลท.ในครั้งนี้ ก็จะยื่นลาออกจากตำแหน่งประธาน บล.เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์(TSFC)ด้วย ซึ่งจะมีผลในทันทีในวันนี้
"การที่ตลาดหลักทรัพย์ถือหุ้นใหญ่ใน TSFC ทำให้มีโควต้าในการเป็นประธานโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อหมดวาระก็ควรที่จะลาออก แต่ผมก็รู้สึกพอใจกับการที่ทำให้ TSFC กลับมาช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ได้ และยังเป็นอีกช่องทางในการระดมทุนของโบรกเกอร์"นายปกรณ์ กล่าวด้านนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นถึงผู้ที่จะมารับตำแหน่งประธานบอร์ด ตลท.แทนนายปกรณ์ คงต้องรอผลจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.ก่อน ซึ่งปกติโควต้าของก.ล.ต.จะคัดเลือกมา 2 คนให้ตลท.เป็นผู้พิจารณา
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลงานของนายปกรณ์ ถือว่าน่าพอใจ และเป็นผู้ที่เข้าใจถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและระบบตลาดทุน ซึ่งสามารถช่วยขับเคลื่อนงานด้านตลาดทุนค่อนข้างมาก รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาของ TSFC