บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะนำให้"ซื้อ"หุ้น SAT เนื่องจากมีมุมมองบวกอย่างมากต่อผลการดำเนินงาน 2H52 เห็นได้จากการปรับเพิ่มยอดขายทั้งปี 2552 จากเดิมที่คาดลดลง 35% yoy เหลือเพียงติดลบ 26% yoy โดยแนวโน้มยอดขาย 2H52 จะเติบโตสูง 46% จาก 1H52 สำหรับความเชื่อมั่นของการฟื้นตัวแรงใน 2H52 นั้นมาจากสัญญาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะค่ายมิตซูบิชิ ลูกค้าใหญ่ ซึ่งช่วง 1H52 ลดการผลิตลงไปมาก ก็จะเริ่มกลับมาผลิตมากขึ้นในปลาย 3Q52 เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ในตลาดส่งออกและในประเทศที่ดีขึ้น
ทำให้คาดว่ายอดผลิตรถยนต์รวมช่วง 2H52 จะเพิ่มจาก 3.9 แสนคันใน 1H52 เป็น 5.5 แสนคัน หรือเติบโต 40% นอกจากนี้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากออเดอร์ใหม่ของคูโบต้าเข้ามาผลักดันยอดขายอีกประมาณ 250 ล้านบาทในปี 2552 ขณะที่แนวโน้มปี 2553 คาดยอดขายเติบโตไม่น้อยกว่า 20% yoy ตามการผลิตรถยนต์ที่คาดเพิ่มขึ้น 10% yoy ประกอบกับจะรับรู้รายได้จากคูโบต้าเต็มปี 750 ล้านบาท รวมถึงจากออเดอร์ใหม่รถอีโคคาร์ของนิสสันที่จะเริ่มผลิตต้นปี 2553
สัญญาณการฟื้นตัวที่ดีกว่าคาด จากการใช้กำลังการผลิตชิ้นส่วนที่ปรับตัวดีขึ้นจาก 49% ใน 1Q52 และ 46% ใน 2Q52 เป็น 63% ใน 3Q52 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 70% ใน 4Q52 บริษัทได้มีการปรับเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปี 2552 เป็น 57% (ตามตาราง) ทำให้ฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มประมาณปี 2552 และ 2553 สะท้อนภาพการใช้กำลังการผลิตตามข้อมูลที่ได้รับจากบริษัท ส่งผลให้ยอดขายปี 2552 เพิ่มจากเดิม 15% และปี 2553 เพิ่มจากเดิม 23% ขณะที่ Gross Margin เฉลี่ยปี 2552 และ 2553 คงเดิมไว้ที่ 15.5% และ 18% ตามลำดับ ภาพรวมกำไรจากการดำเนินงานปี 2552 เพิ่มจากเดิม 12% เท่ากับ 235 ล้านบาท ก่อนจะฟื้นตัวโดดเด่นเป็น 414 ล้านบาท ในปี 2553
นอกจากนี้ ด้วยฐานกำไรปี 2552 ที่ต่ำกว่าปกติ หากอิง P/E 10 เท่า ได้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2552 ที่ 7.82 บาท แต่จากสัญญาณการฟื้นตัวที่เด่นชัดในปี 2553 ทำให้ราคาหุ้นของ SAT มีโอกาสกลับมา Outperform อีกครั้ง ซึ่งหากพิจารณามูลค่าพื้นฐานปี 2553 ที่ 13.8 บาทแล้วยังมี upside สูง 56%
ล่าสุด 28 ส.ค.52 ราคาหุ้น SAT ปิดที่ 8.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท(+6.63%)มูลค่าซื้อขาย 16.75 ล้านบาท