"เสี่ยวิลลี่"เล็งถือหุ้น PR124 เพิ่ม-ขอสิทธิบริหาร,ต่อยอด MPIC ในอนาคต

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 1, 2009 14:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

"เสี่ยวิลลี่"วิรัตน์ อุดมสินวัฒนา เปิดใจหลังจับมือ"คุณากร เศรษฐี" น้องชายของคุณหญิงกมลา ยุคล ณ อยุธยา ชายา ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง เข้าถือหุ้น บมจ.124 คอมมิวนิเคชั่นส(PR124)รวมสัดส่วน 17% โดยนายคุณากร ยังเป็นผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร บริษัท พร้อมมิตรโปรดักชั่น

*ปรากฎชื่อุณวิรัตน์เป็นผู้ถือหุ้นใน PR124 ด้วย 4.11%

"ใช่ครับ คือผมรู้จักกับคุณคุณากร เศรษฐีอยู่แล้ว เพราะเราทำธุรกิจภาพยนตร์เหมือนกัน คือเค้าอยู่พร้อมมิตร ผมอยู่ Box Office และ บมจ.เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์(MPIC) เรียกว่าคนวงการภาพยนตร์เหมือนกัน เจอกันบ่อยๆ ช่วงหลังก็คุยกันเรื่องการทำตลาด การทำ Marketing

แล้ววันนึงเค้าถามว่าสนใจจะเข้าลงทุนด้วยกันมั้ย เค้ามีไอเดียแต่ตอนนั้นยังเปิดเผยว่าจะจะลงทุนที่ไหน ชวนผมไปเป็นพาร์ทเนอร์ เพราะเค้ามองว่านี่เป็นการลงทุนส่วนตัวเค้า ผมก็มองว่าเราต่างคนต่างมีธุรกิจที่เป็นธุรกิจเดียวกันคือภาพยนตร์ ถ้าคุณสนใจเรื่องนี้แสดงว่าต้องคิดอะไรอยู่ในใจ เค้าก็เลยอธิบายให้ฟัง ผมก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นผมไปด้วยคนสิ"

*ถือหุ้น 4.11% เท่ากับที่ถือใน MPIC เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ

"เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า คือคุณนิมิตร(นิมิตร หมดราคี กรรมการผู้จัดการ PR124) บอกเค้าไม่ขาย แต่ให้รายชื่อผู้ที่อาจจะอยากขายหรือคนอื่นๆ ให้เราไปติดต่อเอาเอง แล้วคุณคุณากรก็ไปรวบรวมมาได้ 17% เป็นของผม 4.11% ที่เหลืออีก 12.89% เป็นของคุณคุณากร

ส่วนรายการบิ๊กล็อต จำนวน 4 รายการ รวม 5,045,223 หุ้น มูลค่า 17,658,728.50 บาท ที่ราคา 3.50 บาท/หุ้น เมื่อหลายวันก่อน เป็นของผมรายการเดียว"

*ทำไมไม่ยอมเปิดเผยตั้งแต่แรกว่าจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหม่ใน PR124 ด้วย

"คุณคุณากรเป็นเจ้าของไอเดีย เค้าก็บอกขอเป็นชื่อเค้าออกหน้านะ ผมก็บอกได้ ไม่มีปัญหา อีกอย่างถ้าบอกเป็นชื่อวิรัตน์เดี๋ยวโดนขโมยซีน คำถามจะวิ่งมาถามวิรัตน์เยอะกว่า นอกจากนี้ผมจะรู้เรื่องราวที่เค้าคิดน้อยกว่าที่เค้าคุยกันมา เพราะฉะนั้นเป็นชื่อคุณคุณากรออกหน้าก็ดีแล้ว เวลาสื่อถามจะได้อธิบายได้ ผมไม่รู้อะไรเท่าไหร่ กลัวไปขโมยซีนเปล่าๆ"

*วัตถุประสงค์และคาดหวังอะไรจากการเข้าลงทุนครั้งนี้

"ถือเป็นหุ้นอีกตัวนึงที่ผมเข้ามาด้วยมีความเป็น Real Sector เกี่ยวข้องหรืออ้างอิงกับธุรกิจที่เราทำอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่เป็นการเทรดปกติ ถือเป็นการลงทุนส่วนตัว ลงทุนระยะยาว ส่วนอนาคตจะไปต่อยอดหรือไม่ต้องไปดูวันข้างหน้าว่าทำได้หรือไม่"

*มีโอกาสจะเข้าถือหุ้น PR124 เพิ่มหรือไม่

"ถ้ามีโอกาสก็จะถือหุ้น PR124 เพิ่มขึ้นแน่นอน และวันหน้าเราได้สัดส่วนเรามากขึ้นเราอาจจะขอสิทธิเข้าไปบริหารด้วย ส่วนใน Work Heart ก็เป็นแค่พันธมิตรกับคุณคุณากร และถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนหรือวางนโยบาย ก็ต้องดูว่ามีเก้าอี้กรรมการว่างมั้ย หรือถ้าเค้าเชิญมาก็ยินดี....แต่ยืนยันว่าถ้าไม่มั่นใจคงไม่มา เพราะหุ้นไหนดีไม่ดีสังเกตง่ายๆ เลยจากผู้บริหารไม่ยอมขาย"

*การเข้าลงทุนครั้งนี้ตั้งใจวางแผนอะไรให้กับ MPIC ในอนาคตด้วยหรือเปล่า

"ลงทุนเพราะเราเล็งเห็นถึงศักยภาพในการทำธุรกิจ คือผมลงทุนด้วยแล้วก็มองศักยภาพแล้วบังเอิญมันเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เรา Related คือ ไม่มี Conflic of Interest เป็นเรื่องของการต่อยอดกันเองในกลุ่ม ถ้าเป็นไปได้ เช่น MPIC ซึ่งทุกวันนี้ทำธุรกิจ Content และมีเพียงช่องทางจัดจำหน่ายเป็นของตัวเอง ผ่าน MVD แต่ยังขาดสื่อในมือ

ถ้าผมอยากสร้างอาณาจักรของวิรัตน์ ก็ต้องมี Content และ Media ซึ่งแม้วันนี้ MPIC จะมี MAJOR เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งก็เปรียบเหมือนเป็นคุณพ่อคุณแม่ Control ไม่ได้อยู่แล้ว เราเป็นลูก เราต้องทำให้เค้า Run ทำตัวเลขดีๆ ให้ เพราะจริงๆMPIC จะต้องลด Cost นี่อาจจะเป็นวิธีการที่ผมช่วย MPIC ลด Cost คือเราก็จะดูว่า MPIC ใช้มีเดียอะไร แพงกว่ามั้ย ถ้าแพงกว่าทำไมไม่มาใช้ของเราเอง ส่วนวันข้าง PR124 จะเป็นพันธมิตรกับ MPIC ก็เป็นไปได้ เป็นไปได้หมดล่ะครับ แต่ตอนนี้อาจจะยังเร็วไป

ถ้าผมทำให้ตรงนี้แข่งขันกันในตลาดได้และต้นทุนต่ำ ผมก็จะชวน MPIC มาซื้อมีเดียทางนี้ ซึ่ง Cost ต่ำกว่า ตอนแรกมองแค่ธุรกิจกับธุรกิจ ส่วนอนาคตถ้า Synergy กันแล้วทำให้ต้นทุนต่ำ แน่นอนว่าเราจะได้ Economy of Scale คือได้เปรียบคนที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน เราก็จะถือไพ่เหนือกว่า ซึ่งมันก็เป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดศักยภาพของกลุ่มดีขึ้น"

*มองอนาคตของ PR124 อย่างไร เพราะขนาดบริษัทเองก็ยังไม่ค่อยกล้าฟันธงใดๆ

"ผมมองว่า PR124 เป็นหุ้นที่มีอนาคต จากความเป็น Professional มา 20 ปี เป็นเบอร์ 1 ของบริษัทพีอาร์ เพียงแต่ความไม่นิ่งของการเมืองทำให้สะดุดไปในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ทราบดีว่าตอนนี้ PR124 ขาดทุนอยู่ และมีขาดทุนสะสม แต่เราดูว่าที่ขาดทุนเป็นเพราะสถานการณ์ไม่ปกติ และผมมองว่าถ้าการเมืองนิ่งกลุ่มของผมและคุณคุณากรมาร่วมตรงนี้เราจะเสริมกันแล้ว

ผมว่าธุรกิจจะเข้ามาช่วยเสริมให้ภาพรวมของ PR124 ดีขึ้นกว่าเก่าแน่นอน คือ รายได้ธุรกิจพีอาร์ไม่ได้ลด ตรงข้ามกลับจะมีธุรกิจสื่อเข้ามาเสริม เพราะผมมองว่ามีเดียที่เราค่อนข้างโดน พวก Transit Media เช่น ป้ายรถเมล์ สนามบิน ตามสี่แยก ท้ายตุ๊กตุ๊ก ฯลฯ ผมเองก็จะช่วยหางานหาลูกค้าให้กับ PR124 ทั้งด้านสื่อโฆษณารวมถึงงานพีอาร์ด้วย

มั่นใจว่าปี 53 Revenue ของ PR124 ต้องสูงขึ้น รายได้ต้องสูงขึ้น เพียงแต่ยังไม่ได้ประมาณการ"

*เท่าที่ดูในพอร์ตเห็นส่วนใหญ่เลือกลงทุนหุ้นที่เกี่ยวกับสื่อ

"มีอยู่ไม่กี่ตัวเองมี MPIC, WAVE(ชื่อเดิม CVD)ล่าสุด PR124 แล้วก็เล่นหุ้นอื่นๆ อีกนิดหน่อย เช่น D1, TYM ซึ่งก็เล่นเทรดปกติ แต่มีเพียงแค่ MPIC เท่านั้นที่บริหารด้วย"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ