TICON คาดรายได้ปีนี้ตามเป้าที่ 2.5 พันลบ. ลูกค้าใหม่เช่าพท.เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 14, 2009 13:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) เปิดเผยว่า สถานการณ์การเช่าพื้นที่คลังสินค้าในช่วงที่เหลือของปีนี้นั้น ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้ามาใหม่หลายรายในส่วนของการเช่าคลังสินค้าทั้งธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจนำเข้าและส่งออก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวส่งผลให้ความต้องการเช่าพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2,500 ล้านบาท โดยมาจากรายได้จากการเช่าโรงงาน รายได้จากการขายคลังสินค้า (แวร์เฮ้าส์) เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ใหม่ รายได้จากการบริหารกองทุน และรายได้จากเงินปันผลจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND)

ขณะเดียวกัน การก้าวเข้ามาดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการคลังสินค้า เพื่อให้เช่า และพัฒนาเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ของกลุ่มไทคอน รวมถึงการที่คาดว่า เศรษฐกิจจะกลับมาสู่ภาวะปกติ จะผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่องในปี 2553

“โลกการแข่งขันทางการค้าในปัจจุบัน ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่คุณภาพของสินค้าเท่านั้น แต่มุ่งให้ความสำคัญในเรื่องความรวดเร็วในการส่งสินค้าถึงมือลูกค้าด้วยต้นทุนการขนส่งที่ถูกที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด สำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิต การจัดการโลจิสติคส์ก็เป็นส่วนสำคัญในการบริหารสินค้าคงคลัง และลดต้นทุนวัตถุดิบโดยการบริหารการจัดส่งสินค้าแบบทันเวลา (Just in Time) เพื่อที่จะสามารถลดต้นทุนการผลิตสินค้าให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ดังนั้น การบริหารจัดการโลจิสติคส์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งส่งผลให้ศูนย์กระจายสินค้าหรือคลังสิ นค้าในช่วงที่ผ่านมานั้นได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ" นายวีรพันธ์ กล่าว

นายวีรพันธ์ กล่าวว่า จากทิศทางโลจิสติคส์และการขนส่งที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ หรือทีโลจิส (TLOGIS) ที่มีขนาดกองทุนประมาณ 1,535 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างขอ อนุมัติจัดตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากกองทุนดังกล่าวฯ จะเข้าไปลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดินและคลังสินค้าใน 2 โครงการ คือ โครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค วังน้อย จังหวัดอยุธยา และโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค บางนา ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้ง คุณภาพคลังสินค้าแบบมาตรฐานสากล และระบบสาธารณูปโภคที่ดี ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของคลังสินค้าเหมาะแก่การเป็นศูนย์จัดเก็บสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางบก และการขนส่งทางน้ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ